คู่มือท่องเที่ยวสหพันธ์ Xianzhou
คู่มือท่องเที่ยวที่เผยแพร่โดย Star-Picking Tours ซึ่งได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว อันเลื่องชื่อต่างๆ ของสหพันธ์ Xianzhou

Fanghu

*โบรชัวร์ท่องเที่ยวที่จัดทำโดย "Star-Picking Tours" บริษัททัวร์ของ Exalting Sanctum*

Xianzhou "Fanghu" เคล็ดลับการท่องเที่ยว

เดิมที Xianzhou "Fanghu" นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของสหพันธ์ Xianzhou แต่หลายปีมานี้ เพราะได้รับความเสียหายจากสงครามเฟื่องฟูครั้งที่สาม Fanghu จึงไม่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้อีก ถึงขั้นยกเลิกบัตรผ่านสำหรับท่องเที่ยวไป ในปัจจุบัน เมื่อ Fanghu เริ่มใช้นโยบายการท่องเที่ยวใหม่ พวกเราก็จะได้ไปเยี่ยมชมทะเล Miniature Myriads ที่มีคลื่นน้ำซัดสาดกันอีกครั้งเช่นกัน

ตามนโยบายส่วนภูมิภาค ในปัจจุบัน การไปท่องเที่ยวที่ Fanghu ไม่เพียงต้องใช้บัตรผ่านที่ออกโดยสหพันธ์ Xianzhou เท่านั้น แต่ยังต้องยื่นขอบัตรผ่านเข้า Fanghu ล่วงหน้า 2-3 เดือนด้วย (ชาว Xianzhou ก็เช่นกัน) นักท่องเที่ยวที่มีภูมิลำเนาอยู่ในสหพันธ์ Xianzhou จะต้องนำหนังสือรับรองความประพฤติที่ออกโดย Realm-Keeping Commission ตามที่อยู่สำมะโนครัวไปยื่นที่ Sky-Faring Commission ของ Fanghu ส่วนนักท่องเที่ยวจากต่างแดน จะต้องยื่นหนังสือรับรองความประพฤติที่ออกโดยสถานที่อยู่อาศัย และมอบหนังสือรับรองว่าไม่มีประวัติอาชญากรรม ที่ออกโดยองค์กรสันติภาพแห่งดวงดาวมาพร้อมกันด้วย

ถึงแม้ขั้นตอนจะค่อนข้างซับซ้อน แต่บัตรผ่านที่ออกโดย Sky-Faring Commission ของ Fanghu นั้นมีอายุถึง 20 ปี เรียกได้ว่าลำบากเพียงครั้งเดียว ก็จะสบายไปอีกนาน

ข้อควรระวังอีกอย่างคือ Fanghu เป็นถึงเขตปกครองตนเองของชาว Vidyadhara ในด้านการใช้ชีวิต ขนบธรรมเนียม และโครงสร้างทางสังคมจึงแตกต่างกับ Xianzhou ลำอื่นๆ ดังนั้นโปรดซื้อ "คู่มือชีวิตใน Fanghu" ที่ตีพิมพ์โดย Star-Picking Tours ก่อนออกเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจขึ้น

Xianzhou "Fanghu" แหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด

[Claretgleam Bay]

Claretgleam Bay แห่งแดนสนธยา Sanze เป็นป้ายแรกของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเยี่ยมชม Fanghu ผู้คนที่เพิ่งลงจาก Starskiff มักจะตื่นตะลึงกับน้ำทะเล ที่ไหลอย่างเงียบสงบเหนือโดมของแดนสนธยา อันที่จริงก่อนที่จะมาเยี่ยมชม Fanghu คนส่วนใหญ่ก็ได้เห็นภาพความอัศจรรย์เช่นนี้ จากผีเสื้อห้วงมายาหรือโฮโลแกรมแล้ว แต่เชื่อเถอะว่า ประสบการณ์ใดๆ ที่ได้รับจากสิ่งเหล่านี้ ล้วนเทียบกับการมองเห็นด้วยตาตัวเองไม่ได้เลย

เงยหน้ามองมหาสมุทรอันกว้างใหญ่สิ แล้วจะเห็นร่างอันใหญ่โตของ Shangguan Sea Snake เลื้อยผ่านไป ได้เห็น Lantern Fish อยู่รวมกันเหมือนเป็นหิ่งห้อยในน้ำ ได้เห็น Srimanth Conche ออกล่าท่ามกลางฝูงปลาดั่งขีปนาวุธอันปราดเปรียว... ประสบการณ์อันน่าทึ่งแบบนี้ มองไปทั่วทั้งจักรวาล คงแทบจะมีให้เห็นได้แค่ใน Claretgleam Bay เท่านั้นแล้ว

[พิพิธภัณฑ์ร่องรอยแห่งเทพคันศร]

พิพิธภัณฑ์ร่องรอยแห่งเทพคันศรตั้งอยู่ในแดนสนธยา East Sea โดยมีชื่อเต็มๆ คือ "พิพิธภัณฑ์ร่องรอยแห่งเทพคันศรในสงครามความเฟื่องฟูครั้งที่สาม" ทั่วทั้งแดนสนธยา East Sea ได้กลายเป็นซากปรักหักพัง ท่ามกลางไฟสงครามไปแล้ว ซึ่งพิพิธภัณฑ์ร่องรอยแห่งเทพคันศรก็ตั้งอยู่เหนือซากปรักหักพังนั่นเอง

ในพิพิธภัณฑ์ร่องรอยแห่งเทพคันศร คุณจะได้เห็น "เรื่องราวร่องรอยของเทพแห่งคันศร" ผ่านภาพฉายโฮโลแกรมที่สร้างขึ้นจากศาสตร์เวทเมฆาของชาว Vidyadhara และได้ประจักษ์กับภัยพิบัติเสมือนอยู่ในเหตุการณ์นั้นเอง... กองทัพพันธมิตรแห่งเฟื่องฟูโจมตี Fanghu เหล่าผู้พิทักษ์ไข่มุกสู้ตายไม่ท้อถอย ทว่าสุดท้ายก็แพ้พ่าย ทำให้กองทัพพันธมิตรแห่งเฟื่องฟูบุกเข้ามาในแดนสนธยา ดังนั้นเพื่อหยุดไม่ให้สูญเสียไปมากกว่านี้ คันศรลิขิตจึงต้องปรากฏตัว แล้วใช้ศรเทพทำลายกองเรือของกองทัพพันธมิตรแห่งเฟื่องฟู พร้อมกับกวาดล้างแดนสนธยามากมายที่ถูกยึดครองไปด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้น แดนสนธยา East Sea คือสถานที่เดียวที่ "กลายเป็นซากปรักหักพัง"

หอจัดแสดงที่น่าทึ่งที่สุดในพิพิธภัณฑ์ร่องรอยแห่งเทพคันศรคือ "Palace of Mortal World" ที่นี่ Fanghu และองค์กรสันติภาพแห่งดวงดาวได้ร่วมกันสร้าง "Moundfish Avenue" ซึ่งเป็นพื้นที่รุ่งเรืองก่อนที่จะเกิดสงครามในแดนสนธยา East Sea พร้อมทั้งจำลองวิถีชีวิตประจำวันก่อนเผชิญโชคร้ายของผู้อยู่อาศัยทั้ง 39823 คนในรูปแบบของวิญญาณมายา หากเข้าไปพูดคุยกับพวกเขา คุณก็จะพบว่าพวกเขานั้นเป็นคนทั่วไปเหมือนคุณ ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าตัวเองจะหายไปในไฟสงคราม

ชาวต่างแดนสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ร่องรอยแห่งเทพคันศรได้ฟรี... เพราะชาว Fanghu ต้องการให้ผู้คนมากมายเข้าใจว่าสหพันธ์ Xianzhou กำลังต่อสู้เพื่ออะไร

[Wild Shore]

Wild Shore คือชายหาดที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดใน Fanghu ถึงแม้ขั้นตอนการทำบัตรผ่านจะยุ่งยากซับซ้อน แต่ที่นี่ก็ยังต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนเกือบ 70 ล้านคนอยู่ทุกปี

เสน่ห์ที่สำคัญสุดของ Wild Shore คือ ที่นี่ผสมผสานข้อดีของ "บ่อน้ำพุร้อน" และ "ชายหาด" เอาไว้ด้วยกัน ในด้านหนึ่ง น้ำของ Wild Shore จะอุดมไปด้วยจุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพผิว ส่วนอีกด้านหนึ่ง Wild Shore ก็มีหาดทรายขาวที่งดงามและทิวทัศน์ธรรมชาติอันน่าตะลึง ส่วนข้อเสียใหญ่ๆ ของ Wild Shore คือเป็นที่นิยมมากเกินไป จนถึงขั้นที่ว่า คุณจะได้เห็นหาดทรายขาวที่ปกติจะโดนนักท่องเที่ยวกลบฝังไว้ ในช่วงนอกฤดูกาลเท่านั้น