เรื่องราวเก็บตกจาก "พิธีดวลยุทธ์"
ต้นฉบับบทความการแข่งขัน ที่นักข่าวนิรนามคนหนึ่งทิ้งไว้ มีทั้งเรื่องจริงผสมเท็จ ซึ่งได้บอกเล่าเรื่องราวการแข่งขันอันน่าทึ่ง ของผู้เข้าแข่งขันจำนวนมาก ที่ชวนให้คนต้องตะลึง...

เรื่องราวเก็บตกจาก "พิธีดวลยุทธ์"

พิธีดวลยุทธ์ Xianzhou คือการรวมตัวของเหล่านักรบผู้กล้า แต่ทุกๆ ครั้งที่ปิดม่านการแข่งขัน มีเพียงแค่ผู้ชนะเท่านั้นที่โดดเด่นจนกลายเป็นประเด็นร้อนพูดคุยกันตามท้องถนน ส่วนผู้กล้าคนอื่นๆ ที่เข้าการแข่งขัน กลับถูกลืมไว้ข้างหลัง ช่างน่าเศร้านัก!

แม้ผู้เขียนจะไม่ใช่ผู้มีวิทยายุทธ์อะไร แต่ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากการเข้าชมการแข่งขันของผู้กล้าและเหล่าวีรชนมานาน พวกเราไม่ต้องการให้ตำนานของบุคคลเหล่านี้ถูกผู้คนลืมเลือนไปกับกาลเวลา จึงเลือกที่จะขยับปากกาและเรียบเรียงเป็นบันทึก เพื่อถ่ายทอดวีรกรรมของคนรุ่นก่อนสู่คนรุ่นหลัง

1. จอมดาบนิวตรอน

นักดาบที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนาม ผู้แบกดาบยาวสองเล่มขนาดสามฟุตมาเข้าร่วมพิธีดวลยุทธ์ตามลำพัง ซึ่งดาบล้ำค่าคู่นี้สร้างขึ้นจากดาวนิวตรอนสองดวง ทั้งแข็งแรงทนทานและตัดเหล็กได้ดั่งโคลน มีแต่ปรมาจารย์ผู้ฝึกร่างกายกับทักษะจนช่ำชองเท่านั้น จึงจะมีเรี่ยวแรงยกมันขึ้นได้

ดังคำกล่าวที่ว่า ผู้กล้าสังหารผู้กล้า กระบี่ล้ำค่าปะทะดาบเลิศล้ำ เพิ่งจะขึ้นสังเวียนแรก จอมดาบนิวตรอนก็ได้พบกับคู่ต่อสู้ที่มาพร้อมกับดาบดาวแคระขาว ทั้งคู่ต่อสู้กันภายใต้คมดาบอย่างเพลิดเพลิน กลับไม่นึกเลยว่า การปะทะอย่างดุเดือดระหว่างดาวนิวตรอนและดาวแคระขาว จะทำให้รูหนอนมีชีวิตขนาดเล็กผุดขึ้นมาตรงกลางสังเวียนเสียได้! รูหนอนนั้นเขมือบคู่ต่อสู้เข้าไปในทันใด ก่อนจะสุ่มเทเลพอร์ตตัวเขาไปยังดินแดนที่ไม่รู้จักในจักรวาล ส่วนนักดาบที่ทุกคนคาดหวังคนนั้น ก็ได้รับคำสั่งจากคณะผู้จัดงานให้ออกตามหาคู่ต่อสู้ที่หายตัวไป นับแต่นั้นเขาจึงเดินทางออกจาก Xianzhou และก้าวสู่การเดินทางตามหาคนอันแสนยาวนาน

ส่วนหลังจากนั้นจะเป็นเช่นไรต่อ ผู้เขียนคงต้องขออุบเอาไว้ก่อน

2. เจ้าหนุ่มแมงมุม Dodoconey

อย่างที่รู้กันดีว่า พิธีดวลยุทธ์ไม่ใช่แค่การแข่งขันของชาว Xianzhou เท่านั้น แต่ยังเปิดกว้างไปในระดับจักรวาล และยินดีต้อนรับเหล่าผู้ท้าชิงจากต่างแดน และผู้เขียนมองว่า ในการแข่งขันครั้งนี้ นักสู้ต่างแดนที่น่าจับตามองที่สุดก็คือเจ้าหนุ่มแมงมุม Dodoconey อย่างไม่ต้องสงสัย

ด้วยข้อได้เปรียบทางเผ่าพันธุ์และความมุมานะ มือทั้งแปดข้างของ Dodoconey จึงสามารถควบคุมอาวุธได้พร้อมกันถึงแปดชนิด และยังใช้ทักษะการต่อสู้ที่เกี่ยวข้องได้ทั้งแปดอย่างอีกด้วย เล่ากันว่า ก่อนจะมาที่พิธีดวลยุทธ์ Dodoconey เคยเป็นศิษย์ของภูตเฝ้าถ้ำ ซึ่งเป็นปรมาจารย์การต่อสู้แห่งกาแล็กซี และได้ฝึกฝน "แปดกงล้อสวรรค์" อันเป็นสุดยอดเคล็ดวิชาบนดาวเคราะห์แปดดวงที่มีสภาพความเป็นอยู่เลวร้าย ทำให้กระบวนท่าของวิชานี้ก้าวสู่ความไร้เทียมทานบนสังเวียน และไม่มีผู้ใดต่อกรได้

แต่แล้ว Dodoconey ก็ไม่ได้เดินไปถึงสังเวียนสุดท้าย เขาพ่ายแพ้ในการแข่งขันสนามที่สี่ของตัวเอง เหตุผลไม่ใช่อะไรอื่น เพราะในฐานะที่เขาเป็นแมงมุมจิตสัมผัส Dodoconey จึงกลายเป็นแมงมุมชราตัวหนึ่ง ใช่ เขาเสียชีวิตด้วยโรคชราเสียแล้ว!

3. Ulpo แห่งวาฬห้วงสูญ

ถ้าพูดถึงผู้เข้าแข่งที่ขาดความน่าชมที่สุดในพิธีดวลยุทธ์ Ulpo เจ้าสำนักวาฬห้วงสูญ คงจะคู่ควรกับตำแหน่งนี้ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้สืบทอดเพลงมวยโบราณของ Xianzhou ยังไม่ทันเริ่มการแข่งขัน ปรมาจารย์นักสู้ชาว Vidyadhara คนนี้ก็ได้อาศัยความสามารถและรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่น มากวาดเอาเสียงสนับสนุนจากกลุ่มผู้ชื่นชอบศิลปะการต่อสู้ไปได้มากมาย "ไม่มีใครสามารถต้านทานหมัดวาฬห้วงสูญได้หรอก ถ้ามี ก็เอาไปอีกหมัด" นั่นคือสโลแกนประจำตัวของเขา

และความจริงก็เป็นเช่นนั้น Ulpo ฝึกฝนทักษะนี้จนชำนาญถึงขีดสุด เมื่อเทียบกับท่าแปลกๆ สารพัดแบบของศิษย์ร่วมสำนักแล้ว การต่อสู้ของ Ulpo ก็ถือว่าเรียบง่ายธรรมดาเกินไปมาก เขาเอาแต่เหวี่ยงหมัดวาฬห้วงสูญไม่หยุดยั้งด้วยกำลังที่แข็งแกร่ง รุนแรง น่าเกรงขาม ก่อนจะกำจัดคู่ต่อสู้ตรงหน้าด้วยกำลังเพียงเพียวๆ

ผู้เขียนคิดว่าวิทยายุทธ์นั้น นอกจากจะต้องนำมาใช้ได้จริงแล้ว ก็ควรจะมีความน่าดูน่าชมในระดับหนึ่งด้วย แต่ผู้เข้าแข่งขัน Ulpo กลับถูกบีบให้ถอนตัวออกจากการแข่งขันเพราะปัญหาครอบครัว ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายจริงๆ

4. Danil และ Aurumaton XIV

การที่ยกสองคนนี้มาคู่กัน ไม่ใช่แค่เพราะพวกเขาเป็นหุ่นยนต์อัจฉริยะเหมือนกัน แต่เพราะว่าพวกเขาต่างเป็นศิษย์ปิดสำนักของภูตเฝ้าถ้ำต่างหาก และยังมีความสามารถพิเศษในการวิเคราะห์ "ท่าต่อไป" ของคู่ต่อสู้อีกด้วย ความสามารถในการวิเคราะห์ที่เก่งกาจนี้ ทำให้พวกเขาแสดงพลังการคุมสนามในการแข่งขันได้อย่างน่าทึ่ง และยังฟันฝ่าคู่ต่อสู้ทุกรายจนได้มาปะทะฝีมือกันเองด้วย

ในการแข่งขัน Danil เป็นฝ่ายเริ่มต้นวิเคราะห์ท่าถัดไปของอีกฝ่ายก่อน ส่วน Aurumaton XIV ก็ไม่ยอมตกเป็นรอง เขาคิดวิเคราะห์ท่าถัดถัดไปต่อจากท่ารับมือถัดไปของอีกฝ่ายต่อ หลังจากนั้น Danil ก็เริ่มคิดวิเคราะห์ท่าถัดถัดถัดไปของอีกฝ่าย วนเวียนอยู่อย่างนี้ตลอดจนจบการแข่งขัน แต่หุ่นยนต์อัจฉริยะทั้งสองก็ไม่ได้แสดงกระบวนท่าใดๆ ออกมา จนสถานการณ์เดินมาสู่ทางตันของตรรกะที่ไร้จุดจบ ทำให้ทางคณะผู้จัดงานจำต้องพาพวกเขาออกจากสังเวียนไปอย่างไม่มีทางเลือก

แม้ทางฝ่าย Xianzhou จะคิดว่าสมควรรักษาสิทธิ์การแข่งขันของผู้เข้าแข่งขันสองคน ที่ยังไม่รู้ผลการตัดสินต่อไปยังพิธีดวลยุทธ์ครั้งหน้า แต่ผู้เขียนกลับอดสงสัยไม่ได้ว่า หากผ่านไปสักหนึ่งหมื่นยุคอำพัน การตัดสินระหว่างพวกเขาจะสิ้นสุดได้หรือไม่ นี่คงเป็นดังที่นักสู้ชาว Xianzhou ยุคโบราณเคยกล่าวไว้ว่า:
"เรียนมาจากอาจารย์คนเดียวกัน ย่อมไม่อาจทำลายเคล็ดวิชาของอีกฝ่ายได้"

5. ล่องเมฆ

ตั้งแต่มีการจัดพิธีดวลยุทธ์แห่งดวงดาวมาจนถึงปัจจุบัน กติกาการแข่งขันก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่จักรวาลนั้นกว้างใหญ่ จึงมักมีเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการรับรู้ จนทำให้ผู้คนตกอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกได้ และนี่ก็คือเหตุที่ผู้เขียนได้นำเรื่องเล่าของ "ล่องเมฆ" ผู้ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักมารวมไว้ในนี้ด้วย

ผู้เข้าแข่งขันล่องเมฆ ไม่ทราบเผ่าพันธุ์และอายุขัย วิชาควบคุมเมฆที่เขาฝึกฝนนั้น มีมวลสสารที่คลุมเครือและขอบเขตเจตจำนงการรับรู้อันเป็นเอกลักษณ์ ยิ่งผู้ฝึกฝนเชี่ยวชาญมากเท่าไหร่ การดำรงอยู่ของมวลสสาร ก็จะยิ่งเบาบางลงเท่านั้น เมื่อพูดถึงตรงนี้ ผู้อ่านอาจจะคิดว่าผู้เข้าแข่งขันล่องเมฆคนนี้ ก็เป็นแค่ผู้แข็งแกร่งสุดแปลกในหมู่ผู้แข็งแกร่งอีกหลายๆ คน แต่ขอให้ทางผู้เขียนได้เล่าต่อไปก่อน

ในการแข่งขันสังเวียนสุดท้าย ล่องเมฆได้ฝึกฝนวิชามาจนถึงขั้นสูงสุด ทำให้กายเนื้อของเขาเลือนหาย และกลายเป็นเพียงร่างแห่งเจตจำนงที่สมบูรณ์ ถ้าพูดในเชิงวิทยาศาสตร์ก็คือ... เขากลายเป็นร่างจิตร่างหนึ่ง เป็นร่างจิตที่ไม่สามารถโจมตีวัตถุใดๆ ได้ และคู่ต่อสู้ก็ไม่สามารถสัมผัสโดนล่องเมฆได้เหมือนกัน พวกเขาทำได้เพียงจ้องกันอยู่บนสังเวียน ถ้าอิงตามกฎการแข่งขันแล้ว ร่างจิตนั้นไม่ได้อยู่ในคุณสมบัติที่จะสามารถเข้าแข่งขันได้ แต่ถ้าก่อนขึ้นเวที ผู้เข้าแข่งขันยังไม่ใช่ร่างจิตล่ะ? ด้วยเหตุนี้ ทางคณะผู้จัดงานจึงไม่สามารถตัดสินผลแพ้ชนะของการแข่งขันบนสังเวียนนี้ได้

หากแต่ล่องเมฆกลับไม่ได้ใส่ใจในผลลัพธ์เช่นนี้ เขากลับตะโกนเสียงดังขึ้นมาว่า "ในที่สุดฉันก็ฝึกสำเร็จแล้ว!" ก่อนจะเหาะออกนอกสังเวียนไป และไม่เคยกลับมาอีกเลย