คู่มือสามัญ สำหรับทหารใหม่ Yaoqing: ภาพรวมของฝูงนักล่า Borisin
แบบเรียนวิชาทหารสามัญที่มาจาก Xianzhou Yaoqing

คู่มือสามัญ สำหรับทหารใหม่ Yaoqing: ภาพรวมของฝูงนักล่า Borisin

...
...

หลังจากสงครามสาวกแห่งความเฟื่องฟูครั้งที่สาม แผนการปกครองของ Borisin ก็ตกอยู่ในสภาวะที่ไม่เสถียรเป็นอย่างมากมาโดยตลอด ตอนนี้ยังมีกองกำลังเล็กๆ จำนวนมากที่เราไม่สามารถระบุได้ ซึ่งค่อยๆ ก่อตัวเป็นอำนาจใหม่ที่ไร้รูปร่าง ดัวยเหตุนี้ กองลาดตระเวนของกองทัพแดนเขียวขจี จึงได้เรียบเรียงข้อมูลเกี่ยวกับ Borisin มาไว้ในนี้คร่าวๆ เพื่อมอบให้นักรบ Cloud Knight ได้ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง

ปัจจุบัน หลักๆ แล้วโลกของ Borisin จะปกครองด้วยฝูงนักล่าหกกลุ่ม คือ ฝูงนักล่าจันทรคราส ฝูงนักล่าคมเขี้ยว ฝูงนักล่ากรงเล็บ ฝูงนักล่าคาวโลหิต ฝูงนักล่าเขาผงาด และฝูงนักล่าหมาป่าขาว

ฝูงนักล่าจันทรคราส

ฝูงนักล่าจันทรคราสคือ จอมกอบโกยที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ที่สุด ผู้ก่อตั้งฝูงนี้อ้างว่าตนเคยกลืนกินเนื้อของเทพเจ้า ดังนั้นจึงถูกเรียกว่า "นักล่ากลืนเทวา" โดย Borisin ในฝูงนักล่านี้ ได้รับพรจันทร์คลั่งมากที่สุด และเมื่อเข้าสู่ภาวะ "จันทร์คลั่ง" ก็จะบ้าระห่ำอย่างไร้การควบคุม... ซึ่งพวกเขาเรียกสิ่งนี้ว่า "จันทร์สีชาดพิโรธ"

เพราะธรรมเนียมของฝูงนักล่าจันทรคราส ทำให้พวกเขามีพฤติกรรมการกินเนื้อสัตว์จากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ดังนั้นจึงมีอัตราการกลายพันธุ์สูงมาก และเลือดเนื้อของพวกเขาก็คือเครื่องจักรพันธุกรรม ที่เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างต่อเนื่อง และจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง ด้วยการนำข้อมูลทางชีวภาพของเผ่าพันธุ์อื่นเสริมเข้าไป เมื่อต่อสู้กับฝูงนักล่าจันทรคราส จะต้องใส่ใจกับงานเก็บกวาดสนามรบให้ดี และห้ามทิ้งร่างของเพื่อนร่วมรบไว้ในสนามรบเด็ดขาด เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเกียรติยศและความรู้สึกเท่านั้น แต่เป็นกฎที่จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ฝูงนักล่าคมเขี้ยว

เมื่อเทียบกับการต่อสู้แล้ว ฝูงนักล่าคมเขี้ยวจะเชี่ยวชาญศาสตร์เวททางพันธุกรรมมากกว่า ปกติแล้ว Borisin จะใช้อสูรจักรกลและอาวุธ ซึ่งส่วนใหญ่โครงสร้างทางเทคโนโลยีของสิ่งเหล่านี้ จะมาจากปรมาจารย์พันธุกรรมของฝูงนักล่าคมเขี้ยว

แม้แต่ในยุคสงครามภายในที่โหดร้ายที่สุด ก็ยังไม่มีฝูงไหนกล้าโจมตีฝูงนักล่าคมเขี้ยว... หรือโจมตีปรมาจารย์พันธุกรรมของฝูงนี้ เพราะจะทำให้เกิดความขุ่นเคืองขึ้นในหมู่ Borisin และนำไปสู่การถูกรุมโจมตีได้ Xianzhou Yaoqing เคยโยนความผิดเรื่องการโจมตีฝูงนักล่าคมเขี้ยวไปให้กับ Bosirin เผ่าอื่นๆ ได้สำเร็จหลายครั้ง ซึ่งกลยุทธ์นี้ได้ทำให้เกิดความขัดแย้งภายในอย่างรุนแรงขึ้น

เมื่ออ้างอิงจากเทคโนโลยีชีวภาพอันซับซ้อนของฝูงนักล่าคมเขี้ยว กองทัพแดนเขียวขจีก็ได้ค้นพบยาต่อต้านชนิดหนึ่งภายใต้การร่วมมือระยะสั้นกับสถาบันแห่งปัญญา ซึ่งเป็นยาที่สามารถต้านทานอาวุธไวรัสส่วนใหญ่ ที่พวกเขาพ่นออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นก่อนเข้าสู่การรบ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณได้ติดตั้งยาชนิดนี้หรืออุปกรณ์ที่คล้ายคลึงกันเรียบร้อยแล้ว

ฝูงนักล่ากรงเล็บ

ฝูงนักล่ากรงเล็บคือทหารรับจ้างใน Borisin ซึ่งคุณอาจจะได้พบพวกเขาในการต่อสู้ใดก็ได้ โดยพวกเขาจะมีความอดทนและซ่อนตัวเก่งเป็นอย่างมาก ทั้งยังเชี่ยวชาญการไล่ล่า ลอบสังหาร และมีกลยุทธ์การสู้รบที่น่าสะพรึง

พวกเขามีประสาทสัมผัสต่อกลิ่นที่เหนือชั้นกว่า Borisin เผ่าอื่นๆ และได้พัฒนาจนกลายเป็นภาษาทางกลิ่นที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก และได้นำไปใช้ในการล่าร่วมกัน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูจากฝูงนักล่ากรงเล็บ ให้พยายามตัดการเชื่อมโยงระหว่างพวกเขาโดยอาศัยประสาทสัมผัสทางกลิ่น ซึ่งมาตรการในขั้นนี้ของกองทัพแดนเขียวขจี คือ การปล่อยกลิ่นรบกวนและฟีโรโมนโต้กลับ ดังนั้นก่อนที่จะออกรบ ขอให้ทุกคนโปรดติดตั้งยาต้านทานการล่อลวงอย่างน้อยสองหน่วย (ชื่อเข้ารหัส 'น้ำหอม')

ฝูงนักล่าคาวโลหิต

ฝูงนักล่าคาวโลหิตคือผู้ฝึกอสูรและนักโหราศาสตร์ที่โดดเด่นที่สุดในหมู่ Borisin พวกเขามีกองเรืออสูรขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งทำให้ทั้งเผ่าเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ความคล่องตัวอันยอดเยี่ยมของพวกเขา ยังทำให้พวกเราแทบจะไม่สามารถค้นหาฐานทัพของพวกเขาได้อย่างแม่นยำ แต่พวกเขากลับสามารถบุกโจมตีและปล้นพวกเราได้อยู่บ่อยๆ

ในยุคที่จักรวรรดิ Borisin ตกต่ำลงอย่างถึงที่สุด ฝูงนักล่าคาวโลหิตก็มีแนวโน้มอย่างมากที่จะกลายเป็นกลุ่ม Borisin ที่สหพันธ์จัดการได้ยากที่สุดในอนาคต

(ด้านล่างของเอกสารมีสัญลักษณ์ยืนยันตัวตนทางชีวภาพอยู่ ซึ่งจะนำไปยังหน้าเว็บไซต์ลงทะเบียนหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับนักบิน แต่น่าเสียดาย เห็นได้ชัดว่าคุณเปิดมันไม่ได้)

ฝูงนักล่าเขาผงาด

ฝูงนักล่าเขาผงาดคือฝูงนักล่าที่มีอายุน้อยที่สุดในปัจจุบัน สำหรับ Borisin ที่ใช้การล่ามาเป็นวิถีชีวิตหลักแล้ว ฝูงนักล่าเขาผงาดนั้นถือเป็นพวกแปลกแยก พวกเขาชอบการเพาะปลูกบนดวงดาวที่ตนยึดครอง และเก่งกาจในการป้องกันเป็นอย่างมาก

ด้วยลักษณะพิเศษทางวัฒนธรรมเช่นนี้ ฝูงนักล่าเขาผงาดจึงเชี่ยวชาญด้านการจัดการ และยึดถือแนวปฏิบัติที่ "ค่อนข้างมีสันติ" ซึ่งแนวปฏิบัติดังกล่าว ก็ทำให้พวกเขาได้สร้างความร่วมมือที่ "ค่อนข้างมีสันติ" กับฝ่ายต่างๆ (เช่น องค์กร) จนเกิดความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกันขึ้น

พวกเขาแตกต่างกับ Borisin ส่วนใหญ่ที่หลงใหลในเทคโนโลยีชีวภาพ เพราะฝูงนักล่าเขาผงาดนั้น ชอบศึกษาเทคโนโลยีเหล็กที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับเลือดเนื้อ หลังจากผ่านพิธีบรรลุนิติภาวะแล้ว ฝูงนักล่าเขาผงาดวัยหนุ่มก็จะได้รับเกราะพลังชิ้นแรกของตน ซึ่งนี่ก็คือสาเหตุที่พวกเขาถูกเรียกว่า "เขาผงาด"... นี่คือนามของเทพอสูรผู้แข็งแกร่งและไม่อาจทำลายได้ในตำนานของชาว Borisin

Borisin หลายตนเชื่อว่า ฝูงนักล่าเขาผงาดทรยศต่อวิถีชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์ที่บิดาแห่งหมาป่า Duran ได้สร้างขึ้น แต่ก็มี Borisin วัยหนุ่มสาวบางส่วนที่เชื่อว่า "เขาผงาดคืออนาคต"

สมาชิกของฝูงนักล่าเขาผงาด คือเป้าหมายที่สามารถเจรจาได้เป็นบางครั้ง แต่อย่าได้คาดหวังจากเรื่องนี้มากไป เพราะสุดท้ายแล้ว Borisin ก็คือ Borisin เมื่อคุณแสดงความหวาดกลัวหรือได้รับบาดเจ็บ พวกเขาก็จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา และเผชิญหน้ากับคุณด้วยอาวุธ

ฝูงนักล่าหมาป่าขาว

ฝูงนักล่าหมาป่าขาวอาจจะเป็นฝูงที่พิเศษที่สุด และชั่วร้ายที่สุดในบรรดาฝูงนักล่าทั้งหกในปัจจุบัน พวกเขาเป็นฝูงนักล่าเพียงกลุ่มเดียวที่มีมนุษย์จิ้งจอกเป็นผู้สั่งการ แทนที่จะเป็น Borisin โดยมนุษย์จิ้งจอกที่อยู่ในฝูงเรียกตัวเองว่า "หมาป่าขาว"

เมื่อเจ็ดร้อยกว่าปีก่อน เมื่อ Hoolay ถูกสหพันธ์จับกุมตัว Borisin ก็ได้เปิดฉากสงครามภายในอันดุเดือดขึ้นมา ทาสชาวมนุษย์จิ้งจอกกลุ่มหนึ่งเลือกที่จะลุกฮือขึ้นมาโดยอาศัยสงครามภายในครั้งนี้ ท่ามกลางเหตุการณ์ลุกฮือครั้งใหญ่ของทาส หัวหน้าทาสที่เรียกขานตัวเองว่า "ข่านหมาป่าขาว" ก็ได้สังหารเจ้านายของตนเอง และนำฝูงชนไปยึดครองดาวเคราะห์ที่มีฝูงนักล่าอยู่ โดยที่ Borisin ไม่มีเวลามาปราบกบฏ จากนั้นอาณาจักรของ "ข่านหมาป่าขาว" จึงดำรงอยู่เช่นนี้ต่อไป

ปัจจุบัน ฝูงนักล่าหมาป่าขาวที่นำโดยมนุษย์จิ้งจอก ได้กลายเป็นฝูงที่มีแนวปฏิบัติโหดเหี้ยมที่สุดในบรรดาฝูงนักล่าทั้งหมดของ Borisin... พวกเขาอาศัยความบ้าคลั่งของผู้เปลี่ยนแปลงความศรัทธา มาทำให้ตนกลายเป็น "Borisin ที่ยิ่งกว่า Borisin" เพื่อหลีกเลี่ยงชะตากรรมที่ต้องตกเป็นทาสอีกครั้ง

กลยุทธ์การรบที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดของฝูงนักล่าหมาป่าขาว คือการใช้เพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์อย่างมนุษย์จิ้งจอก มาเป็นแนวหน้ารับกระสุนในการต่อสู้ระยะประชิด เพื่อก่อกวนจิตใจของทหารฝ่ายเรา (กลยุทธ์แบบนี้พบเห็นได้บ่อยในฝูงนักล่าอื่นๆ เช่นกัน แต่พวกหมาป่าขาวมีอัตราการนำมาใช้สูงกว่า) นอกจากนี้ พวกเขาก็มักจะปลอมตัวเป็นมนุษย์จิ้งจอก Xianzhou ในสนามรบ แล้วตะโกนด้วยภาษาของแดนเขียวขจีว่า "อย่าลงมือ ฉันเป็นพวกเดียวกัน" เพื่อหลอกให้กองอัศวิน Cloud Knight ลังเลและหวั่นไหว จากนั้นก็ฉวยโอกาสลอบสังหาร

เพราะลักษณะพิเศษของฝูงนักล่าหมาป่าขาวที่เชี่ยวชาญด้านการปลอมตัว การใช้พื้นที่ และการลอบแทงข้างหลังศัตรูเช่นนี้ Cloud Knight แห่ง Yaoqing จึงต้องทดสอบคัดกรองทางจิตวิทยากับทหารมนุษย์จิ้งจอกเป็นประจำ หากคุณเป็นมนุษย์จิ้งจอก โปรดอัปเดตใบรับรองการคัดกรองทางจิตวิทยาของคุณเป็นประจำ เพื่อให้กองกิจการทหารควบคุมสถานการณ์ได้ทันเวลา

นอกจากนี้ โปรดจดจำไว้ว่า ขณะที่ต่อสู้กับฝูงนักล่าหมาป่าขาว โปรดอย่ายอมรับพฤติกรรมยอมจำนนในช่วงสุดท้ายใดๆ ก็ตาม รวมถึงห้ามรับเชลยศึกใดๆ เด็ดขาด ขณะเดียวกัน โปรดระวังไว้ว่าอย่าให้คุณหรือเพื่อนของคุณ ตกไปอยู่ในกำมือของ "หมาป่าขาว" ทั้งที่ยังมีชีวิต และเมื่อต่อสู้กับพวกเขา จะต้องเหลือลูกธนูหรือกระสุนเอาไว้ให้กับตัวเองหนึ่งชิ้นเสมอ... หรือไม่ก็อาวุธใดก็ตาม ที่สามารถใช้ปลิดชีพตัวเองได้

อารามกงล้อสีชาด

หลังจากที่จักรวรรดิ Borisin ล่มสลาย ฝ่ายใหม่ที่ชื่อว่า "อารามกงล้อสีชาด" ก็ปรากฏตัวสู่สายตาของพวกเรา

ผู้ศรัทธาของอารามกงล้อสีชาดปฏิเสธการทำร้ายสิ่งมีชีวิตใดๆ ก็ตาม และเปลี่ยนไปใช้แนวคิดทางความเชื่อบางอย่างมาเป็นหนทางเพื่อช่วยเหลือ โดย Borisin เหล่านี้ได้ต่อต้านสงครามสาวกแห่งความเฟื่องฟูที่ไม่รู้จักจบจักสิ้น และเกิดความสะเทือนใจเพราะการเข่นฆ่าเผ่าพันธุ์เดียวกัน พวกเขาได้รื้อฟื้นตำนานของ "เทพหมาป่าและเทพกวาง" ในเรื่องเล่าของแดนเขียวขจีขึ้นมาอีกครั้ง และมองว่าแกนหลักของความวุ่นวายในปัจจุบัน อยู่ที่การเสียสมดุลระหว่างพลังของ "เฟื่องฟู" และ "ล่าสังหาร"

ปัจจุบัน อารามกงล้อสีชาดมีนักบวชเกือบหมื่นคน และส่วนใหญ่จะเป็น Borisin มีส่วนน้อยที่เป็นสาวกแห่งความเฟื่องฟูจากเผ่าพันธุ์อื่นๆ ภายใต้การคุ้มครองของนักบวชกงล้อสีชาด สาวกแห่งความเฟื่องฟูที่เหนื่อยล้าจากสงคราม จึงมีสถานที่ให้พักผ่อนกายใจ

นักบวชของอารามกงล้อสีชาดมีลักษณะพิเศษที่เด่นชัดและแยกได้ง่าย พวกเขาทุกคนจะมีวงแหวนบทบัญญัติที่หลอมขึ้นจากโลหะบางอย่าง และมักจะนำไปรัดส่วนใดส่วนหนึ่งบนร่างกายตัวเอง (เช่น ศีรษะหรือลำคอ) ซึ่งนี่เป็นสัญลักษณ์ว่าพวกเขาอยู่ในศีล และจะไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเด็ดขาด

แม้ว่าแนวคิด "Borisin ที่ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต" นี้จะเชื่อถือได้ยาก แต่จากบันทึกในปัจจุบัน ฝ่ายดังกล่าวได้ทำในสิ่งที่พวกเขาประกาศเอาไว้ได้จริงๆ กองกิจการทหารจึงไม่อนุญาตให้สังหารนักบวชของอารามกงล้อสีชาดโดยเจตนา ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกตัดสินในข้อหาสังหารชาวเมืองโดยเจตนา

...
...