บันทึกการสำรวจท้องฟ้าของอาชาเทพ
อาชาแห่ง Janus ที่ไปเยือนท้องนภา ต้นฉบับนี้บอกเล่าถึง หลักฐานการดำรงอยู่ของพวกเขา

บันทึกการสำรวจท้องฟ้าของอาชาเทพ

วันที่หนึ่ง
มีสองเรื่อง เรื่องหนึ่งดี อีกเรื่องหนึ่งร้าย
ข่าวดีก็คือ เมืองท้องนภามีอยู่จริงๆ และด้วยการค้นพบนี้ เมื่อพวกเราสองคนกลับไป จะต้องได้เลื่อนขั้นเป็นนักบวชแน่นอน!
ส่วนข่าวร้ายคือ พวกเราคงกลับไปไม่ได้แล้วน่ะ ฮ่าฮ่า

วันที่สาม
พวกเราได้ติดตั้งประตูทางลับไว้มากมาย และพอจะรู้โครงสร้างเบื้องต้นของป้อมปราการแห่งนี้บ้างแล้ว
ชาว Ladon ที่ป่าเถื่อนพวกนั้น มีฐานะสูงส่งเหมือนกับบรรดาท่านหมอที่ลานแสงสนธยาเลยเหรอเนี่ย? ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย

วันที่ห้า
พบเอกสารที่ชาวท้องนภาเหลือทิ้งเอาไว้ ซึ่งมีบันทึกที่เกี่ยวข้องกับการสักการะอยู่มากมาย แม้รูปแบบและรายละเอียดปลีกย่อยจะแตกต่างกันไปตามเผ่าพันธุ์ แต่โดยรวมแล้วก็มีส่วนที่เหมือนกันอยู่... สรุปสั้นๆ ก็คือ การโยนของลงมาจากฟ้า
เมื่อย้อนนึกถึงเรื่องเล่าพื้นบ้านที่เคยได้ยินมา เช่น ฝนธัญญาหารที่ร่วงหล่นจากฟ้า หรืออาวุธจากท้องนภา ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความเชื่อมโยงกับพิธีกรรมท้องนภา

วันที่แปด
ฉันเคยเห็นสิงโต และเคยได้ยินเสียงนกร้อง แต่ไม่เคยได้ยินสิงโตเลียนเสียงนกร้องมาก่อน
อีกอย่างนะ อาชาเทพทำจากไม้ ไม่ใช่ม้าจริงๆ อย่าเอาแต่จ้องมองมาทางนี้สิ ฉันกลัวนะ!

วันที่เก้า
ถูกอาชาเวหาวิ่งไล่ จนกระเป๋าสัมภาระตกหล่นไปหมด
เสบียงอาหารหมดแล้ว แต่ในป้อมปราการที่แข็งแรงแห่งนี้ กลับไม่มีหนทางที่จะอยู่รอดได้เลย ถ้าหิวขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ?

วันที่สิบ
หาวิธีได้แล้ว

วันที่สิบห้า
พรรคพวกของฉันไม่อาจทนต่อความทุกข์ทรมาน ของกาลเวลาแห่งท้องนภาได้ จึงหลอมรวมจิตวิญญาณเข้ากับอาชาเทพของเขา
นี่คือสิ่งที่เขาเลือก ฉันไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้

วันที่สิบเจ็ด
การสำรวจประวัติศาสตร์ของชาวท้องนภามีความคืบหน้าครั้งใหญ่... ตำนานต้องห้ามระหว่างอัศวินอสนีสุริยันกับ Aquila ฉบับสมบูรณ์!
แม้ว่าสำนวนจะดูเหมือนเขียนให้คนหนุ่มสาวอ่าน ทั้งยังวาดภาพประกอบที่ดูหมิ่นเทพเจ้าเอาไว้ด้วย แต่ไม่เป็นไร เพราะพวกนักประวัติศาสตร์ก็ควรจะกระหายใคร่รู้เหมือนเด็กๆ อยู่แล้ว
...นี่คงไม่ใช่แค่หนังสือการ์ตูนของคนโบราณจริงๆ หรอกใช่มั้ย?

...

วันที่ยี่สิบสี่
รู้สึกเบื่อเต็มทน ฉันหาหีบมาใส่ของเล็กๆ น้อยๆ ที่เก็บรวบรวมมาจากรอบๆ แล้วนำไปวางไว้ตรงจุดที่อาชาเทพอยู่
อีกหน่อยอาจจะมีคนค้นพบพวกมันก็ได้
ฉันเข้าใจแล้วล่ะ หีบสมบัติในเขาวงกต คงไม่ได้มีที่มาที่ไปแบบนี้กันหมดใช่มั้ย?

...

วันที่สามสิบสาม
มหานักบวชมาช่วยฉันแล้ว! ขอสรรเสริญแด่ Janus!!
เพื่อนของฉันกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาชาเทพไปแล้ว ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน ฉันร้องไห้ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย
ฉันบันทึกการค้นพบที่สำคัญที่สุดจากการเดินทางครั้งนี้ไว้ที่นี่ เพื่อเป็นบทสรุปสุดท้าย และหวังอย่างยิ่งว่ามันจะเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลัง


...แผ่นไม้ของอาชาเทพช่วยประทังความหิวได้ และรสชาติก็พอใช้ได้