จดหมายแจ้งลูกค้าของ Balaway "แสงแห่งเหมือง"
ประกาศของ Balaway ที่สั่งให้หยุดการประเมินรีลิกส์โบราณต่อหน้าสาธารณะ

จดหมายแจ้งลูกค้าของ Balaway "แสงแห่งเหมือง"

ถึงคนพเนจรทุกท่านที่ขุดพบรีลิกส์โบราณ:

เป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง หลังจากหมดรอบภาษีในครั้งนี้ ฉันก็จะหยุดให้บริการการตีความและประเมินค่ารีลิกส์แล้ว นอกจากนี้ จุดให้คำปรึกษาในตลาดสินค้าก็จะปิดตัวลงด้วย

หรือพูดอีกนัยหนึ่งว่า หลังจากวันนี้เป็นต้นไป หากคุณเดินบังเอิญสะดุดกับเศษเหล็กไร้ที่มาที่ไปในเหมือง หรือว่าทีมขุดของคุณบังเอิญเจออาวุธโบราณที่สามารถปล่อยลำแสงความร้อนได้ ก็อย่าเพิ่งดีใจหน้ามืดตามัว หลงคิดว่ามันเป็นของวิเศษที่ฟ้าประทานมาให้ แล้วก็อย่าเอาเศษเหล็กไร้ค่าที่ล้างยังไงก็ไม่สะอาดมาหาฉันเชียวล่ะ

ก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้นนั่นแหละ: อย่าหวังเลย เพราะฉันเลิกทำกิจการนี้อย่างถาวรแล้ว

แน่นอนว่าต้องมีบางคนสงสัยว่าทำไมถึงเลิกทำ ในเมื่องานนี้ก็ไปได้สวยนี่นา? งั้นฉันก็จะขอฝืนใจให้คำตอบอย่างจริงๆ จังๆ เพื่อที่ทุกคนจะได้เข้าใจสถานการณ์ที่ยังไม่ชัดเจนเลยก็แล้วกัน

ประเด็นแรกคือ งานนี้เป็นงานที่ทุ่มเทไปแต่ก็ไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดี

ตั้งแต่ฉันเริ่มทำงานนี้มา ฉันก็อยากจะใช้คู่มือเทคโนโลยีจากโลกเก่าและต้นฉบับต่างๆ ที่ฉันรวบรวมอย่างยากลำบาก มาช่วยทุกคนตีความและประเมินค่ารีลิกส์ให้ง่ายขึ้น แบบนี้ทุกคนก็จะได้มีความหวังต่อสิ่งที่ตัวเองค้นพบ อย่างน้อยๆ ก็น่าจะมีประโยชน์อยู่บ้างเวลาเอาไปต่อรองการขาย

ใครที่รู้แล้วก็ดี แต่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีใครรู้เลยว่าผู้คนจากโลกเก่าสร้างเครื่องจักรเหล่านี้ขึ้นมาได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่มีใครรู้ว่าสมองของพวกเขาบรรจุความรู้ไว้มากมายแค่ไหน

มีรีลิกส์บางชนิดแค่สัมผัสโดนอากาศก็ระเบิดได้ ซึ่งอันตรายกว่าเหมืองที่อัดแน่นไปด้วยแก๊สซะอีก บางชนิดก็คล้ายกับท่อนโลหะธรรมดาทั่วไป ไม่ได้ต่างอะไรกับแท่งเขี่ยฟืนที่ภรรยาคุณเอาไว้เขี่ยเตาไฟเลย แต่ถ้าไปกดโดนปุ่มใดซักปุ่มบนนั้นละก็ มันก็จะน่ากลัวพอๆ กับตอนที่ภรรยาของคุณหัวร้อนวีนแตกนั่นแหละ

ขอยกตัวอย่างหน่อยก็แล้วกัน ตอนรอบภาษีครั้งที่แล้วน่ะ ฉันได้รับวัตถุรูปทรงไข่มา 1 ใบ (ใช่แล้วล่ะ มันเป็นไข่ประเภทเดียวกันกับที่โรงงานเนื้อ Belobog เคยขายมาก่อน) ฉันก็เปิดอ่านต้นฉบับทั้งหมดรวมไปถึงวารสารจากโลกเก่าด้วย จนได้ข้อสรุปว่า... นี่คืออัญมณีชนิดหนึ่งที่ถูกเรียกว่า "Ramlea Egg"

แล้วก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า อัญมณีมันคืออะไร? หลังจากที่ไปสอบถามกับท่าน Uther แล้ว เราก็ได้เรียนรู้ว่า อัญมณีคือของที่มีไว้ใช้สำหรับตกแต่ง ดูสิๆ ผู้คนที่โลกเก่าก็ดูมีเสน่ห์อยู่เหมือนกันนะ มีอะไรให้ทำเยอะแยะไปหมด

ท่าน Uther ตอกไข่ร้อนๆ ใบนี้อยู่ครึ่งค่อนวัน เขาถอดแหวนเล็กๆ ที่ติดอยู่ด้านบนออก มันดูเหมือนว่าจะเอาไว้ห้อยอะไรซักอย่าง ทันใดนั้นเอง ไข่ที่กำลังร้อน จู่ๆ ก็เปล่งแสงและแผ่ความร้อนออกมา ใช่แล้วล่ะ มันสว่างจ้ายิ่งกว่าโคมไฟเหมืองหลายร้อยดวงซ้อนกันซะอีก (แต่ก็ไม่แน่ใจว่าท่าน Uther พูดเกินจริงไปหน่อยรึเปล่า) และดวงตาคู่นั้นของท่าน Uther เดิมทีก็ฝ้าฟางจนมองอะไรไม่ชัดอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งไม่สามารถมองอะไรได้อีก ส่วนฉันน่ะเหรอ พอดีว่ากำลังจะเดินไปชงชา ดวงตาของฉันก็เลยยังปกติดีอยู่ โชคช่วยแท้ๆ เลย แต่ก็เกือบจะตาบอดเพราะฝีมือลูกชายของท่าน Uther เหมือนกัน ฉันต้องยอมชดใช้ไปมากกว่า 60 กระป๋อง เรื่องถึงได้สงบลง

ตอนนี้เข้าใจแล้วรึยังล่ะ? ฉันต้องยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อประเมินค่าของสิ่งเหล่านี้ให้กับพวกคุณ เงินส่วนต่างที่พวกคุณให้เพิ่มมา รวมๆ แล้วก็ยังไม่พอสำหรับค่ารักษาตัวเลยด้วยซ้ำ

เอาล่ะ เรามาพูดถึงประเด็นที่สองกันดีกว่า: มาตรฐานของ "แสงแห่งเหมือง" ถูกตั้งข้อสงสัย

ด้านนอกของ Boulder Town นับวันก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ คนพเนจรที่เข้ามาในเมืองของเราก็มากขึ้นทุกที เมื่อคนเริ่มมากขึ้น คำนินทาว่าร้ายต่างๆ ก็ตามมาด้วยเช่นกัน ฉันเองก็เคยได้ยินพวกคำพูดแย่ๆ มาไม่น้อยเลย เช่น "Balaway ก็แค่ประเมินมั่วๆ ไปเท่านั้นแหละ", "คนพเนจรสักคนจากเมือง Rivet ยังเก่งกว่าเขาตั้งเยอะ" อะไรทำนองนี้... ฉันไม่รู้ว่าคนที่ตั้งใจปล่อยคำพูดให้ร้ายคนอื่นแบบนี้เป็นใครกันแน่ ฉันเองก็ขี้เกียจจะไปโต้เถียงด้วย ก็ได้ แค่เลิกทำไปซะก็สิ้นเรื่อง! ยังไงทุกคนก็คงจะหานักประเมินค่าที่เก่งกว่านี้ได้อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ?

ในอดีต ฉันทุ่มเทให้กับผู้ที่โชคดีมาโดยตลอด ฉันไม่เคยคิดโลภในของโบราณที่ทุกคนขุดมาได้เลย เหตุผลเดียวก็คือฉันจริงใจต่อทุกคน และไม่เคยคิดเรื่องหลอกลวงอะไรเช่นนั้น แล้วคนนอกพวกนั้นล่ะ ถ้าเป็นคุณ คุณจะวางใจพวกเขาไหม? พวกเขาสักแต่จะหาประโยชน์ โดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น ขืนของมีค่าเหล่านี้ตกไปอยู่ในมือของพวกเขาละก็ มันก็คงจะไร้ค่า ถ้าคุณเผลอหลงเชื่อเรื่องไร้สาระพวกนี้ พวกเขาก็จะทำเป็นใจกว้างรับซื้อของมีค่าเอาไว้ แล้วตัวเองก็ค่อยมาหาวิธีขายเอากำไรเยอะๆ แทน

แต่ว่า Balaway "แสงแห่งเหมือง" ก็ไม่ใช่คนแล้งน้ำใจซะทีเดียว ในทุกๆ สิ่งย่อมมีข้อยกเว้นอยู่เสมอ

หากของล้ำค่าในมือของคุณมีราคา ก็ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ช่วยดูให้หรอกนะ ถือซะว่าฉันมีน้ำใจก็แล้วกัน ฉันไม่อยากให้ทุกคนถูกหลอก กรณีนี้ฉันจะถือซะว่าเป็นข้อยกเว้น เข้าใจไหม? แต่ถ้ายังเป็นกองเศษเหล็กพวกนั้นอยู่ ฉันก็ขอแนะนำให้ไปหาคนอื่นที่เก่งๆ กว่านี้เถอะ Balaway หยุดให้บริการประเมินค่าแล้ว