บันทึกของการพบกัน
บันทึกการจีบของผู้หญิงคนหนึ่ง

บันทึกของการพบกัน

Danny เป็นคนที่น่ารักมากคนหนึ่ง เอาเถอะ ถ้าเกิดเขามาได้ยินเข้า ชาว Pepeshi ที่ "มีความเป็นผู้ใหญ่" คนนั้นคงต้องลูบหนวดสองข้างของเขาด้วยสีหน้าจริงจังแน่ๆ แต่พูดจริงๆ นะ นิสัยที่เป็นเด็กและเป็นผู้ใหญ่ในคนคนเดียวกันของเขานั้นเป็นสิ่งที่ "น่ารัก" ที่สุด... ตรงไปตรงมา เปิดเผยและมองโลกในแง่ดี ฉลาดและขยัน เวลาทำงานก็หนักแน่นและพึ่งพาได้ ทำให้ใครๆ ก็อยากจะรู้จัก

แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราควรจะรู้จักกันให้มากกว่านี้ ฉันชื่นชมเขา แต่มันก็แค่เท่านั้น เพราะงั้นตอนที่เขาถามฉันเชิงหยอกๆ ว่าอยากจะร่วมแบ่งปันทรัพย์สินกับเขามั้ย ฉันก็รู้เลยว่ามิตรภาพของเราเดินมาถึงปลายทางแล้ว... ฉันรู้ดีว่าสำหรับชาว Pepeshi แล้ว สิ่งนี้หมายถึงอะไร

ฉันรู้สึกเสียดายกับเรื่องนี้... ถึงคำพูดนี้จะฟังดูเสแสร้งหน่อยๆ... แต่พวกเราไม่เหมาะสมกันจริงๆ เขาเป็นนักธุรกิจที่ยอดเยี่ยม อายุไม่เท่าไรก็มีฐานะมั่นคงในสายตระกูล Alfalfa แต่คุณสมบัติดีเลิศที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จนั้น มันไม่ได้เหมาะ... กับการที่เราจะคบหากัน

สำหรับฉันแล้ว ถึงจะเป็นคู่รักที่สนิทสนมกันแค่ไหน ก็ยังต้องมีระยะห่างและพื้นที่ส่วนตัว ฉันไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าจะตัวติดกับใครคนหนึ่งตลอดเวลาได้ยังไง แต่เมื่อชาว Pepeshi คนหนึ่งมีใจให้คุณ สายตาของเขาก็จะไม่มีเรื่องอื่นหรือใครอื่นใดอีกแล้ว และนี่ทำให้ฉันรู้สึก...หนักใจ

เขาน่าจะได้เจอกับคนที่เขาควรจะทุ่มเททุกทั้งกายและใจให้ คนที่ไม่ใช่ฉัน

วันที่ 10 มิถุนายน

วันนี้อาจจะเป็นวันที่น่าจดจำวันหนึ่ง... เพราะฉันได้คุยกับชาวเผ่า Halovian คนหนึ่งอย่างมีความสุข หากพูดกันตรงๆ แล้ว เผ่าพันธุ์นี้ก็คือลูกรักของพระเจ้าชัดๆ มิน่าถึงมีคนชอบเรียกพวกเขาว่าเทพหรือเทวดา รอยยิ้มแสนจะสง่างามและลึกลับ น้ำเสียงที่ชวนให้คนหวั่นไหวบวกกับรูปโฉมที่น่าตกตะลึงนั้น... พวกเขาเกิดมาเพื่อเป็นจุดสนใจของทุกคนจริงๆ

คุณ Lesley เป็นมิตรกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลย พวกเราไปดูหนัง แล้วก็ทานมื้อค่ำด้วยกัน ระหว่างนั้นพวกเราคุยอะไรกันหลายอย่าง เขาเล่าให้ฟังว่าทูตตัวแทนของ "ตระกูล" ปรากฏตัวมาได้ทันในครั้งที่ Penacony ประสบกับวิกฤต และพลิกสถานการณ์ได้อย่างไร เขาเล่าให้ฟังว่าเผ่า Halovian ใช้ชีวิตอยู่บนโลกพร้อมกับยึดมั่นในเทพเจ้า "ประสาน" ที่พวกเขาศรัทธา รวมถึงก่อสร้างเมืองแห่งความฝันนี้ขึ้นมาเช่นไร

เรื่องราวของเขายอดเยี่ยมมาก บรรยากาศขณะที่เราอยู่ด้วยกัน เป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุข และเขายังพาฉันกลับมาส่งที่โรงแรมอย่างมีมารยาทอีกด้วย ฉันรู้สึกขอบคุณสำหรับมิตรภาพและเจตนาดีของเขา รวมถึงลุ่มหลงในความ "งดงาม" ที่น่าประทับใจนั้นด้วย แต่ยังไงก็ตาม ฉันยังคงสัมผัสได้ถึง... ระยะห่างบางอย่างบนตัวเขาที่ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ บางทีฉันอาจจะคิดเล็กคิดน้อยเกินไป แต่พอมานั่งคิดๆ ดูแล้ว การพบกันครั้งนี้อาจจะไม่มีอะไรให้ควรไปต่อจริงๆ ก็ได้

เพราะชาวเผ่า Halovian สามารถสื่อสารทางจิตถึงกันได้ เฉพาะกับคนในเผ่าพันธุ์เดียวกันเท่านั้น

วันที่ 30 มิถุนายน

คุณ Screwbrugh เป็นสุภาพบุรุษที่แสนจะสง่างาม หรือควรจะเรียกว่า ปัญญาชน พูดแล้วก็น่าละอายนะ ก่อนจะมาอยู่ที่ Penacony จริงๆ แล้วฉันเคยมีอคติกับหุ่นยนต์เพราะข่าวลือต่างๆ นานาด้วย... เพราะเรื่องราวของ "จักรพรรดิ Rubert" เป็นที่รู้กันไปหมดทุกดวงดาว แต่หุ่นยนต์ที่นี่... พวกเขาแต่งตัวแฟชั่น มีมารยาท และระหว่างที่ได้พูดคุยกับคุณ Screwbrugh ฉันรับรู้ได้ถึงความอยากรู้อยากเห็น และความเคารพที่เขามีต่อสิ่งมีชีวิตอินทรีย์อย่างเห็นได้ชัด

คำพูดคำจาของเขาเฉียบแหลมและขบขัน มุมมองการตั้งคำถามบางครั้งก็ดูแปลกๆ และยุ่งยากเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ทำให้คนรู้สึกว่าล่วงเกิน และฉันยังได้ฟังเรื่องราวแปลกๆ มากมายใน "พื้นที่ของสิ่งมีชีวิตอนินทรีย์" จากคำบอกเล่าของเขา ทั้งประเพณี อารยธรรม ศรัทธาและมุมมองในคุณค่าของพวกเขา ฉันเพลิดเพลินกับการพูดคุยอย่างมีเหตุผลแบบนี้ และมองเห็นประกายแห่งจิตวิญญาณ ที่เกิดขึ้นจากการพบกันของความรู้ด้วย

ฉันรู้สึกหลงใหลในความมีเหตุผลและความบริสุทธิ์ของพวกเขา เหมือนมีแรงดึงดูดที่ยากจะมองข้ามไปได้ ซึ่งนี่ทำให้ฉันยอมทุ่มกำลังและแรงกาย ไปทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้น... บางทีในหมู่พวกเขา อาจจะมีคนที่มีจิตวิญญาณตรงกันกับฉันก็ได้นะ

วันที่ 1 กรกฎาคม

ฉัน ขอ ประกาศว่า... ฉันมีความรักแล้ว!

ตั้งแต่แวบแรกที่ได้เห็นเธอคนนั้น ฉันก็รู้ทันทีว่า ต้องเป็นเธอแน่นอน!

ทันทีที่เธอหันมายิ้มให้ ความคิดทุกอย่างดูช่างไร้ความหมาย และเมื่อเธอเอ่ยถ้อยคำกับฉัน ความมีเหตุผลทั้งหมดได้หายไปจนหมดสิ้น แววตาที่ระยิบระยับเหมือนดังอัญมณีคู่นั้น เปรียบดังไฟปรารถนา แสงที่ส่องสว่างชีวิตของฉัน!

น่าเสียดายที่หลังจากคุยกันไม่กี่คำ เธอก็ไม่คิดจะสนใจฉันอีกเลย แต่ไม่เป็นไรหรอก สักวันเธอจะต้องสังเกตเห็นฉัน สักวันเธอจะต้องหันมองมาฉันแน่นอน