Fu Xuan

ผู้นำของ Divination Commission แห่ง Xianzhou "Luofu" นักปราชญ์ที่เปี่ยมไปด้วย ความมั่นใจและความซื่อตรง
เธอจะใช้ตาที่สามและ Matrix of Prescience มาคำนวณเส้นทางเดินเรือของ Xianzhou และทำนายผลดีร้ายของเรื่องราวต่างๆ โดยเชื่อมั่นว่าทุกสิ่งที่ตนทำนั้นเป็น "วิธีแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด"
Fu Xuan กำลังเฝ้ารอ "การสละตำแหน่งแก่ผู้ที่เหมาะสมกว่า" ตามที่ท่านนายพลเคยให้สัญญาไว้ แต่ก็ดูเหมือนว่า... วันนั้นจะยังอีกยาวไกลนัก

หลายปีต่อมา Fu Xuan มักจะหวนนึกถึงวันที่ตนได้รับอนุญาต ให้ก้าวเข้าไปใน "ห้องสมุด" เพื่อถามคำถาม

"เธอกำลังคิดอะไรอยู่?" ผู้อาวุโสตาบอดที่สวมแว่นดำ ถือไม้เท้าเอาไว้ และรอคอยคำตอบจากเธอเงียบๆ

"ทุกชั่วขณะที่สามารถตัดสินใจเลือกได้... ถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าแล้วหรือไม่? หรือว่าหากในชั่วขณะนั้น ฉันทำนายได้แม่นยำยิ่งขึ้น แม้จะแม่นยำขึ้นมาเพียงหนึ่งในหมื่นส่วน ฉันก็จะสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง และทำให้พวกเขาไม่จำเป็นต้องจากไปแล้ว ใช่หรือไม่?" หญิงสาวหลุบตาลงเล็กน้อย ราวกับเอ่ยคำถามที่แฝงไว้ซึ่งคำตอบ

"พวกเราในทุกช่วงเวลา ล้วนยืนอยู่ ณ ใจกลางเขาวงกต ที่ตนได้ทาบรอยเท้าเอาไว้" ผู้อาวุโสตาบอดเคาะไม้เท้าเบาๆ "ฉันไม่อาจให้คำตอบ แต่มอบได้เพียงปัญหา... และความสามารถ ที่จะมองเห็นปัญหาเท่านั้น ส่วนสิ่งที่เธอต้องการ และเดินทางมาเพื่อไถ่ถามฉัน คาดว่านั่นก็คงไม่ใช่คำตอบเช่นกัน"

"ถ้าอย่างนั้นก็มอบ 'ดวงตา' ให้ฉันสิ ไม่ว่าโชคชะตาจะถูกกำหนดไว้แต่แรกหรือไม่ แต่ในฐานะที่เป็นผู้พยากรณ์ ฉันอยากจะมองเห็นมันให้ชัดเจนยิ่งขึ้น"

"ได้ตามที่เธอปรารถนา ทว่ากายเนื้อของชาว Xianzhou นั้นมีอายุยืนยาว หากรับ "ดวงตา" ที่ฉันมอบให้ ก็หมายความว่า ต้องทนรับความเจ็บปวดไปตลอดกาล หากเปรียบเป็นเครื่องมือ มันย่อมเหมือนกับเป็น... 'เครื่องทรมาน' มากกว่า"

"ก็สอดคล้องกับ ความเชื่อของปัญญาสูงส่งไม่ใช่เหรอ... ที่ความรู้ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด ฉันไม่ต้องการให้การตัดสินใจในอนาคต เกิดข้อผิดพลาดแบบเดียวกันอีกแล้ว"

...

ท่ามกลางความเลือนรางใน "ดวงตา" ที่ได้รับมา เธอมองเห็นเรื่องราวในอดีตมากมาย

เธอมองเห็นตัวเองในวัยเยาว์ นั่งคุกเข่าและจดจ่อตั้งใจ เธอมองเห็นบิดาแต้มหน้าผากให้ด้วยความรัก แล้วชื่นชมที่เธอเฉลียวฉลาด และมีไหวพริบอย่างภาคภูมิใจ เธอมองเห็นผู้อาวุโส เปิดเผยประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ ของตระกูล Fu ในฐานะตระกูลนักดูดาวแห่ง Xianzhou Yuque ให้เธอเห็น เธอมองเห็นเหล่าผู้พยากรณ์จัดพิธีกรรม และทำนายอนาคตอันเจิดจรัสของเธอ... ที่จะได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งอันทรงเกียรติ อย่าง "ผู้พยากรณ์สูงสุด"

"นี่คืออนาคตของฉันเหรอ?"

"สรรพชีวิตนั้น ถูกกำหนดชะตาเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว และนี่ก็คือโชคชะตาของเธอ ส่วนผลการทำนาย จะถูกส่งไปให้ท่านผู้พยากรณ์สูงสุด Jingtian เขาตกลงว่า จะเป็นผู้สอนวิชาให้กับเธอด้วยตัวเอง นี่ถือเป็นวาสนาอันยิ่งใหญ่ทีเดียว"

อดีตทั้งหมดซ้อนทับเข้าด้วยกัน ท่ามกลางหมอกควันของความน่าจะเป็น ที่แลดูราวกับความฝัน และคล้ายกับความจริง มันแปรเปลี่ยนไปมา อยู่บนขอบเขตของจิตใต้สำนึก แล้วขยายกลายเป็นอนาคตอันไร้ที่สิ้นสุด เธอพยายามสุดกำลังเพื่อแยกแยะ และตามหาวันนั้น ท่ามกลางช่วงเวลาอันกว้างใหญ่ไพศาล วันที่เธอ ได้กลายเป็นผู้พยากรณ์อย่างเป็นทางการ

ในวันนั้น Fu Xuan ได้มาเคารพอาจารย์ภายใต้ Cloudpeer Telescope ของ Xianzhou Yuque แต่เธอกลับไม่อยากเชื่อเลยว่า คนตรงหน้าจะเป็นผู้พยากรณ์สูงสุด ที่เหล่าผู้อาวุโสยกย่องประดุจเทพเซียน ชายผู้นั้นสวมกางเกงนักบินตัวเก่า เขานั่งอยู่บนพื้นด้วยท่าทางไม่มีพิธีรีตอง แล้วเพ่งความสนใจไปยังจุดแสง ที่พัวพันกันอย่างไม่หยุดยั้งในภาพฉาย

"ศิษย์ Fu Xuan คำนับท่านผู้พยากรณ์สูงสุด" หลังจากลังเลมาพักใหญ่ หญิงสาวก็เอ่ยขึ้น

สายตาของชายหนุ่มไม่สั่นไหว เพียงแค่ยกนิ้วขึ้นมา เป็นท่าทางบอกให้เธอมองไปที่ภาพ ซึ่ง Fu Xuan สังเกตเห็นว่ามือของเขา ถูกเปลี่ยนเป็นกลไกไม้เพราะเหตุใดก็ไม่ทราบ "กองสดับเสียงหยกของ Yuque กำลังวางกำลังป้องกันที่ Thalassa และสนับสนุนกองเรือ Yaoqing เพื่อกำจัดสิ่งชั่วร้าย เธอน่าจะได้ยินข่าวนี้แล้วใช่มั้ย? แต่โชคชะตากำหนดไว้ว่า พวกเขาจะไม่ชนะศึกครั้งนี้นะ"

"หือ? ผลงานรบของกองเรือ Yaoqing เป็นที่ประจักษ์ ยากนักที่จะมีใครต่อกรได้ และจากรายงานการรบ จำนวนกองกำลังของเราและกองเรือรบนั้น มีมากกว่ากลุ่มไล่ล่าของ Borisin เป็นเท่าตัว แล้วจะโจมตีได้แต่ไม่อาจพิชิตได้อย่างไร?"

"ถามได้ดี ดูท่าทางเธอจะไม่ใช่ศิษย์ ที่ยอมรับชะตากรรมง่ายๆ สินะ" ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน พลางปัดเศษฝุ่นบนเสื้อผ้า "ผู้พยากรณ์รู้ชะตาแต่ไม่ยอมรับ ทั้งยังพยายามตามหาตัวเลือกที่ดีที่สุด ท่ามกลางความเป็นไปได้แบบต่างๆ สิ่งนี้ดีมาก แต่บางครั้ง ไม่ว่าเธอจะเลือกยังไง โชคชะตาก็มีเพียงเส้นทางตรงหน้า แค่ทางเดียวเท่านั้น เมื่อพยากรณ์เสร็จสิ้น และตรงหน้าเหลือเพียงผลลัพธ์ ที่แตกต่างกันสองแบบ คือ เคราะห์ร้าย และเคราะห์อันใหญ่หลวงแสนสาหัส เธอจะเลือกยังไง?"

"...เมื่อเปรียบเทียบอันตราย จากทั้งสองตัวเลือกแล้ว ก็ย่อมต้องเลือกทางที่ส่งผลร้ายน้อยกว่า นี่ก็คือบทเรียนแรก ของศาสตร์การพยากรณ์"

"แต่ถ้าหากมองด้วยมุมมองของมนุษย์ ที่ไม่อาจรู้หนักรู้เบาได้ล่ะ?" ชายหนุ่มหันกายมา

"การพยากรณ์ครั้งนี้ถูกทำนายโดย Matrix 'สิบทิศสะท้อนโลกแห่งกฎ' ที่สร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งได้ผลลัพธ์สองแบบคือ ยืมกองวิหคเหินฟ้าจาก Xianzhou Yaoqing หรือโยกย้ายกองมุกนิลกาฬ สองอย่างนี้เลือกได้เพียงหนึ่ง หากเลือกกองวิหคเหินฟ้า ก็จะสามารถอาศัยกำลังทหาร บุกโจมตีได้พักหนึ่ง แต่หลังจากนั้นจะไม่มีโอกาสชนะอีกแล้ว และหากเลือกกองมุกนิลนาฬ ก็จะต้องอดทนต่อระยะห่างระหว่างพื้นที่กับ Fanghu ซึ่งจะทำให้การศึกล่าช้าไปอีกหกเดือน ทั้งยังต้องทนต่อการโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าของศัตรู ยิ่งไม่ต้องพูดถึง การสูญเสียกำลังพลเลยด้วยซ้ำ แต่หากสามารถตั้งรับได้ จนกว่ากำลังเสริมจะมาถึง ก็จะมีโอกาสได้รับชัยชนะ"

"คิดดูแล้ว พวกเขาคงจะเลือกอย่างแรกกันสินะ"

"ใช่แล้ว ผลการทำนายสามารถให้คำปรึกษา และแนะนำได้เท่านั้น แต่ไม่อาจตัดสินใจแทนนายพลได้ เขาเลือกวิธีที่ทำให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ได้ทำนายผิด เพราะความพ่ายแพ้ครั้งนี้ คือผลลัพธ์ที่โชคชะตากำหนดไว้แล้ว"

"ตามหลักการในตำราสงคราม ว่าด้วยการทำศึกด้วยกำลังที่เหนือกว่า กำลังทหารที่โยกย้ายมาจาก Yaoqing ก็อาจไม่ใช่ทางเลือกที่แย่ที่สุด อีกอย่าง โลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดแน่นอน แล้วท่านผู้พยากรณ์สูงสุด มั่นใจขนาดนี้ได้ยังไงกัน? พูดอย่างกับว่าทุกอย่าง จะต้องเกิดขึ้นจริงอย่างนั้นล่ะ"

"โลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดแน่นอน?" ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างหนักหน่วง "เดิมทีฉันก็คิดแบบนี้... ตอนได้รับผลการทำนายครั้งแรก ก็คิดว่าต้องมีการคำนวณผิดพลาดแน่ แต่หลังจากทำนายดูอีกครั้ง ผลกลับไม่เปลี่ยนไปเลย ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจ ไปดูให้เห็นกับตาในสถานที่จริง"

"สองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันได้เดินทางลึกเข้าไปใน Thalassa และได้ต่อสู้กับพวกสิ่งชั่วร้าย จนได้รับความไว้วางใจจากอารยธรรมวารีชนของท้องที่ และได้ข้อมูลที่น่าตะลึงมา นั่นก็คือ ภายในหนึ่งเดือน เนื่องจากการรบกวนของดวงจันทร์ คลื่นยักษ์ที่ชาว Thalassa เรียกว่า "คลื่นน้ำปีศาจ" ก็จะมาเยือน"

"หากไม่มีความช่วยเหลือ จากปรมาจารย์ศาสตร์เวทเมฆาแห่งเผ่า Vidyadhara ของ Fanghu ก็ไม่มีใครต่อสู้กับสัตว์ประหลาดต่อไปได้ ภายในสภาพแวดล้อม ที่เลวร้ายแบบนั้นหรอก ข้อมูลนี้ไม่มีอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ใดๆ ทั้งยังไม่อยู่ในคลังเอกสารของกองทัพด้วย และเพราะฉันทำเกินความจำเป็น เพื่อพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้ จึงต้องแลกด้วยมือข้างนี้ยังไงล่ะ"

ชายหนุ่มยิ้มขมขื่น พลางโบกมือที่ทำจากไม้ "บางครั้ง เส้นทางแห่งโชคชะตา ก็มีเพียงเส้นเดียวมาตลอด ทุกอย่างนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่โชคชะตากำหนดไว้แล้ว"

"จริงสิ เธอไม่จำเป็นต้องเรียกฉันว่า ท่านผู้พยากรณ์สูงสุดหรอก ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เธอควรเรียกฉันว่า 'อาจารย์' ตามที่สมควรได้แล้ว"

เธอได้ผ่านช่วงเวลาแห่งการศึกษาเล่าเรียน ที่แสนสุขที่สุดในชีวิต ณ Divination Commission แห่ง Yuque ส่วนเรื่องโชคชะตากับเจตจำนงเสรี และการคำนวณของ Matrix กับการตัดสินใจเลือกของมนุษย์นั้น... คำถามทุกอย่างที่เกี่ยวกับเส้นทางแห่งการพยากรณ์นี้ หญิงสาวจำได้ว่า ตนและอาจารย์มักจะถกเถียงกันไม่หยุด นี่ไม่ใช่การแข่งขันปะทะฝีปาก แต่เป็นการประชัน กับผู้ที่เป็นดั่งครูและสหาย สุดท้ายหญิงสาวกับอาจารย์ ก็บรรลุความคิดเดียวกันในที่สุด แต่ทั้งคู่กลับมีปัญหาโลกแตกอย่างหนึ่ง ที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจสลัดออกไปได้...

นับตั้งแต่ Nous มอบคัมภีร์พยากรณ์มาให้ ทางฝ่าย Divination Commission แห่งเรือ Xianzhou Yuque ก็ได้อุทิศเวลาหลายร้อยปี เพื่อตีความและทำความเข้าใจสุดกำลัง จนสร้างออกมาเป็น Matrix สำหรับการพยากรณ์ ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นอันดับหนึ่งในสหพันธ์ เหล่าผู้พยากรณ์แห่ง Yuque ล้วนแต่ภาคภูมิใจเพราะเหตุนี้ แต่ในสายตาของ Fu Xuan นี่เป็นเพียงการนำอนาคตของ Xianzhou ไปผูกติดกับเส้นทางที่ Matrix กำหนดมาให้เท่านั้น

เมื่อทุกคนเชื่อว่า สิ่งที่ Matrix แสดงออกมาต้องเป็นความจริง ทางเลือกก็จะกลายเป็นแค่ ของตกแต่งที่เหลือแต่ชื่อเท่านั้น และผู้พยากรณ์ก็ได้กลายเป็นนักโทษของ Matrix โดยที่ไม่มีใครคาดคิด ยามออกเดินทางก็ต้องมีฤกษ์งามยามดี และต้องหยุดทันทีในฤกษ์ที่มีเคราะห์ ในแต่ละวันควรทำสิ่งใดและไม่ควรทำสิ่งใด หรือจะต้องทำอะไรหรือไม่ทำอะไรบ้าง ทุกอย่างเป็นไปตามผลการทำนายทั้งนั้น

"ถ้า Matrix บอกว่าพรุ่งนี้จะถึงวันตายของฉัน ฉันก็ต้องไปหาสักที่ เพื่อจัดการตัวเองงั้นเหรอ? ถ้าเป็นแบบนั้น การทำนายกับไม่ทำนาย มันต่างกันยังไงล่ะ?"

"แตกต่างกันตรงที่ว่า พวกเรารู้ว่าตัวเองกำลังเดินอยู่บน โชคชะตาที่แจ้งประจักษ์ ซึ่งเป็นหนทางสูงสุดที่ปรมาจารย์ Xuan Yao ผู้ริเริ่มก่อตั้ง Divination Commission แสวงหา"

"ด้วยความช่วยเหลือจาก Matrix เหล่าผู้พยากรณ์เพียงแค่ต้องเชื่อในศรัทธา แล้วดำเนินรอยตามผลลัพธ์ จากนั้นก็ตัดสินใจเลือกครั้งแล้วครั้งเล่า... แม้ว่าตัวเลือกเหล่านั้นจะเกินความเข้าใจ และยากเย็นแสนเข็ญเพียงใดก็ตาม แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ทั้งหมดนี้ก็จะทำให้ Xianzhou บรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ ที่มุ่งมาดปรารถนามาโดยตลอด... นั่นก็คือการกำจัดพินาศโรคา เพื่อทำให้โลกไม่ต้องทนทุกข์กับภัยพิบัติร้ายแรงอีก" สีหน้าของชายหนุ่มสงบเยือกเย็นราวกับผู้ที่ตระหนักรู้แล้ว เขามองไปยัง Fu Xuan "ก็เหมือนกับที่ฉันรับเธอมาเป็นศิษย์ หลังจากที่ได้ล่วงรู้ชะตากรรมของเธอน่ะ"

ไม่ใช่เพราะพรสวรรค์ของฉันหรอกเหรอ? และไม่ใช่เพราะเส้นสายของตระกูลด้วย? แค่ทำให้คำทำนายเป็นจริงเท่านั้นเหรอ? นี่...นี่มันจะเหลวไหลเกินไปแล้ว! ความโมโหท่วมท้นจิตใจของ Fu Xuan ทำให้เธอพลันไร้วาจาจะกล่าวไปชั่วขณะ

"เธอรู้ไหม หลังจากที่ขอคำทำนายจาก 'สิบทิศสะท้อนโลกแห่งกฎ' และแปลความหมายออกมาแล้ว ฉันก็แน่ใจว่าชะตากรรมของฉัน จะจบลงด้วยมือของเธอ แต่ฉันก็ยังรับเธอมาเป็นศิษย์ และรอให้เธอมาแทนที่ฉัน เพื่อกลายเป็นผู้พยากรณ์สูงสุดแห่ง Xianzhou Yuque เพราะว่าทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่โชคชะตากำหนดไว้แล้ว"

โชคชะตากำหนดไว้แล้ว? โชคชะตาของเขาจะจบลงด้วยมือของฉัน?

พูดซะเหมือนกับ Xianzhou ยังอยู่ในยุคภัยพิบัติสามประการ ทำอย่างกับว่า เธอปรารถนาตำแหน่งผู้พยากรณ์สูงสุด และเป็นคนทรยศที่คิดสังหารอาจารย์ โดยไม่เลือกวิธีการอย่างนั้นล่ะ อาจารย์นี่เลอะเลือนชะมัด!

"ฉันน่ะ...ฉันจะไม่มีวันทำให้มันกลายเป็นจริงหรอก!"

หญิงสาวเคารพอาจารย์ทุกอย่าง ในฐานะผู้พยากรณ์คนหนึ่ง: ทั้งจิตใจและปัญญา ความสามารถ ไปจนถึงบุคลิกนิสัย มีเพียงอย่างเดียวก็คือ เขาเป็นผู้พยากรณ์ ที่สามารถล่วงรู้โชคชะตาได้ แต่กลับยอมตกอยู่ในก้นบึ้งของความศรัทธาต่อโชคชะตา และมองว่านี่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว

ดังนั้น Fu Xuan จึงหนีออกมาจาก Xianzhou Yuque โดยใช้วิธีที่เกือบจะเป็นการเนรเทศตัวเอง โดยไม่สนว่าครอบครัวจะห้ามปรามอย่างไร และจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหน เธอไปยัง Divination Commission แห่ง Luofu ที่มีบรรยากาศอิสระเสรีมากกว่า และอุทิศตนเพื่อการทำนาย เธอไม่ใช่แค่ต้องการอยู่ห่างจาก Xianzhou Yuque ให้ไกลที่สุดเท่านั้น แต่ยังอยากพิสูจน์เป็นการส่วนตัวด้วยว่า คำทำนายนี้ เป็นเพียงความเข้าใจผิดที่ไร้สาระ ของใครบางคนเท่านั้น

หนึ่งร้อยปีผ่านไปอย่างเงียบสงบ สงครามพลันบังเกิดขึ้นอีกครั้ง ผู้คุมการพยากรณ์ Fu Xuan ถูกสั่งให้พยากรณ์โดยไม่หยุดพัก กองทัพสาวกแห่งความเฟื่องฟู ก่อตัวขึ้นเป็นครั้งที่สาม และบุกไปจู่โจม Xianzhou Fanghu ขณะที่เรือ Yuque และ Luofu ก็อยู่ไม่ไกลจาก Xianzhou Fanghu นัก จึงเป็นหน้าที่ที่พวกเขาต้องเคลื่อนกำลังพลไปช่วยเหลือ โดยผลการทำนายบอกว่า หากโจมตีเต็มกำลัง กองทัพ Xianzhou ที่เข้าร่วม ก็จะพบกับความพ่ายแพ้อันน่าอนาจ... แต่ถ้าหากยืนหยัดตั้งหลักป้องกัน ก็จะมีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้

แต่ผลพยากรณ์ไม่ได้บอกว่า โอกาสพลิกสถานการณ์อยู่ที่ใด Fu Xuan ทำนายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งในการทำนายครั้งที่สาม ผลที่ได้จาก Matrix of Prescience ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง

"ไม่มีใครเลือกความพ่ายแพ้หรอก" สิ่งที่ผู้พยากรณ์ทำได้ก็ล้วนทำหมดแล้ว Fu Xuan เขียนวิเคราะห์ผลดีผลเสียบนกระดาษ แล้วรายงานผลการทำนายไปยัง Seat of Divine Foresight และก็เป็นอย่างที่คิด ผลลัพธ์ของการหารือ จากนายพลของเทพแห่งคันศรสรุปได้ว่า กองทัพพันธมิตรแห่งเฟื่องฟูที่รุกราน Fanghu มีกำลังมหาศาล จึงไม่อาจเลือกตั้งรับได้เพียงอย่างเดียว กองอัศวิน Cloud Knight ของ Luofu และ Yuque จะต้องเข้าต่อสู้ เพื่อยื้อเวลาให้กองทหารของ Yaoqing มาเสริมได้ทัน

ในวันนั้น Fu Xuan จึงได้เห็นความพ่ายแพ้ยับเยิน ของกำลังเสริมจากสหพันธ์ บนโต๊ะทรายโฮโลแกรม พวก Borisin ไม่เพียงนำกองเรือและอสูรจักรกล จำนวนมากมายมหาศาลมาเท่านั้น แต่ยังเรียกดวงดาวมีชีวิต ที่อยู่ในตำนานโบราณอย่าง "Ketu Mirage" ออกมาด้วย สิ่งชั่วร้ายนั้นพุ่งไปยัง Fanghu และกำลังจะนำพาหายนะล้างบาง มาสู่ทุกชีวิตที่อยู่บนนั้น ซึ่งจะซ้ำรอยโศกนาฏกรรมทำลายล้างใน Xianzhou Cangcheng และผู้คนก็ทำได้เพียงมองดูมัน พุ่งลงมาหาเท่านั้น

สิ่งที่ผู้พยากรณ์ทำได้ มีเพียงเท่านี้จริงๆ เหรอ? ท่ามกลางความวิตกกังวล และความโกรธเกรี้ยว Fu Xuan ก็บังเกิดความคิดใจกล้าขั้นสุดขึ้นมา "ฉันขอเข้าพบท่านนายพล Jing Yuan!"

หลังจากได้เข้าพบท่านนายพลแล้ว หญิงสาวก็เอ่ยความคิดของตนออกไป ด้วยกำลังพลในตอนนี้ Cloud Knight ไม่มีทางเอาชนะได้แน่ โอกาสเดียวที่เปลี่ยนสถานการณ์ได้ก็คือ ต้องให้ร่องรอยเทพแห่งคันศรปรากฏ

สิ่งที่เหนือความคาดหมายของเธอก็คือ หลังจากพูดความคิดที่แสนดูหมิ่นและน่าหัวเราะนี้ออกไป นายพลที่มีท่าทีเหนื่อยล้าตรงหน้า กลับไม่ได้แสดงสีหน้าหัวเราะเยาะเย้ย แต่พยักหน้าให้แทน "เธอคิดจะทำยังไง?"

"Xianzhou Yuque มีเครื่องมือสำหรับดูดาวอันดับหนึ่ง มันคือ Cloudpeer Telescope อุปกรณ์ชิ้นนี้ ไม่ใช่แค่สามารถใช้สังเกตการณ์ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถส่งสัญญาณ ไปยังภายนอกได้ด้วย... ความหมายของฉันก็คือ ให้ใช้กองเรือเวหาขนย้าย Cloudpeer Telescope ไปยัง Fanghu แล้วส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ไปยังตำแหน่งสุดท้ายที่ Lux Arrow ของเทพแห่งคันศรอยู่ ทุกวินาทีมีค่า ทุกอย่างยังสามารถพลิกผันได้ ก่อนที่ดาวดวงนั้นจะตกลงไป"

"เธอคงรู้ดีถึง... สัญญาณหนึ่งเดียวและผลลัพธ์ที่จะตามมา เมื่อเทพแห่งคันศรมาเยือนโลก ใช่มั้ย?"

"ใช่ ในฐานะผู้ที่เสนอวิธีการนี้ ฉันยินดีไปยังสนามรบ เพื่อดำเนินการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง" สีหน้าของหญิงสาวเคร่งขรึม เธอเข้าใจดีว่าความคิดที่ตนเสนอออกมา มันน่าตกใจแค่ไหน

"ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของเธอนะ แต่ในช่วงวิกฤต หกหัวเรือใหญ่ควรจะจัดการอย่างสุดกำลัง ยิ่งไปกว่านั้น เธอก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องมือนั้นด้วย และถ้าหากสิ่งต่างๆ อยู่เหนือการควบคุมเพราะเหตุนี้ ฉันก็จะลาออกในฐานะผู้ที่ดำเนินการตามข้อเสนอ และรับผิดชอบต่อผลที่ตามมาทุกอย่างเอง หวังว่าคุณ Fu จะไม่ต้องกังวลมากเกินไป"

Fu Xuan มองตามแผ่นหลังของนายพลที่จากไป จู่ๆ ก็พลันได้สติขึ้นมา และตระหนักได้ถึงความหมายของ "หกหัวเรือใหญ่ ควรจะจัดการอย่างสุดกำลัง" แล้ว: ผู้ที่มีสิทธิ์ขาดในการใช้ Cloudpeer Telescope และสามารถส่งสัญญาณ ผ่านวิธีการตีความคำบัญชาของเทพแห่งคันศรนั้น...

มีเพียงผู้พยากรณ์สูงสุดแห่ง Yuque ผู้เดียว

...

"นี่คือความตั้งใจเดิมในการแสวงหา "ดวงตา" ของเธออย่างนั้นเหรอ? ฉันอ่านความฝันเหล่านั้นของเธอแล้ว..."

หญิงสาวไม่ได้ลืมตา แต่กลับมองเห็นโลกรอบๆ ที่เปลี่ยนจากหมอกควัน มาเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ความเป็นไปได้ทั้งหมดมลายหายไป เหลือไว้เพียงทางเลือกหนึ่งเดียว ที่ชัดเจนแจ่มแจ้ง

"เรื่องพวกนั้นไม่ใช่ฝัน นั่นคืออดีตของฉัน คือทุกสิ่งที่หล่อหลอมฉันขึ้นมา"
"และสิ่งที่เขาพูดก็ไม่ผิด ความจริงแล้วโชคชะตานั้น มีเพียงเส้นทางเดียวมาโดยตลอด"