Tingyun

จิ้งจอกสาวผู้สมบูรณ์แบบในทุกด้าน หัวหน้าผู้แทนกลุ่มการค้า Whistling Flames แห่ง Sky-Faring Commission
Tingyun ผู้เกิดมาพร้อมวาทศิลป์ที่ยอดเยี่ยม เมื่อเธอเอ่ยปาก ผู้คนต่างก็อดไม่ได้ ที่อยากจะฟังเธอพูดให้มากขึ้น และภายใต้การดูแลของเธอ งานแสดงสินค้าของ Xianzhou จึงเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งกาแล็กซี
"หากหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้ก็จงหลีกเลี่ยง หากสามารถเจรจาเพื่อโน้มน้าวใจได้ก็จงทำเสีย" นี่คือหลักการของ Tingyun

ผู้คนมักพูดกันว่า "มนุษย์จิ้งจอกเกิดมาก็ค้าขายเป็นแล้ว" ถ้าไปที่โรงน้ำชา "Sleepless Earl" บ่อยๆ ก็จะเข้าใจความจริงข้อนี้เอง

"คุณไม่รู้อะไร" มนุษย์จิ้งจอกสาวกวัดแกว่งพัดพับเล่มงาม พลางจ้องมองผู้ชายตรงหน้า ที่ดูเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง "โตมาในสภาพแวดล้อมแบบไหน ก็จะเป็นคนแบบนั้น ถ้านำเมล็ด Sandcitrus ของสมาพันธ์ Bitterwater ไปปลูกบนดินศักดิ์สิทธิ์แห่ง Vonwacq มันก็จะกลายเป็นส้มดวงตะวันผลหนักแสนหวาน นั่นก็เพราะ Vonwacq มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและมีดินที่อุดมสมบูรณ์ แล้วถ้าหากนำลูกปลา Lightfish จาก Thalassa มาให้เผ่า Vidyadhara แห่ง Scalegorge Waterscape เพาะเลี้ยง ก็จะทำให้ปลา Lightfish ตัวยาวขึ้นเป็นเท่าตัว จนอาจยาวมากกว่าหนึ่งเมตรได้เลยด้วยซ้ำ"

"แผนล่าสุดของ 'Whistling Flames' คือคัดเลือกปลาสายพันธุ์ที่มีศักยภาพทางการค้ามากที่สุด และจัดส่งโดย Starskiff ของกลุ่มการค้าเพื่อความปลอดภัย จากนั้นไม่นาน คุณก็จะได้รับสินค้าชุดแรกกลับคืนไป เป็นการเพิ่มสีสันให้กับ Crystal Palace ที่อยู่ใต้น้ำ Thalassa ทั้งยังสามารถกลายเป็นสินค้าส่งออกให้กับดินแดนของคุณได้ด้วย"

ชายผู้มีเหงือกด้านข้าง พ่นฟองอากาศที่เหมือนกับไข่มุกออกมา แสดงถึงการชื่นชมที่แฝงความลังเลอยู่เล็กน้อย จากนั้นเขาจึงกล่าวออกมาด้วยเสียงอันน่ามหัศจรรย์ว่า "ตอนแรกฉันคิดว่า 'Whistling Flames' เป็นธุรกิจกักตุนสินค้าเพื่อเก็งกำไร แบบพ่อค้าคนกลางซะอีก แต่พวกคุณคิดจะเปิดเส้นทางธุรกิจขนส่ง ที่มีองค์กรครองตลาดส่วนใหญ่อยู่อย่างนั้นเหรอ? ไหนบอกมาซิ ต้องการเท่าไหร่?"

"เราคิดค่าใช้จ่ายไปกลับที่ 90% คนกลางก็แค่ส่งสินค้าจากมือหนึ่งไปยังอีกมือหนึ่ง ฉันหมายถึง ส่งจากครีบหนึ่งไปยังอีกครีบหนึ่ง เหมือนที่เขาพูดกันว่า 'ทำการค้าใหญ่อย่าสนแต่ผลกำไร' ไงล่ะ เมื่อเราทำประโยชน์ให้ผู้อื่น ก็จะสามารถทำประโยชน์ให้ตัวเองได้ด้วย ขอแค่เจ้าแห่ง Crystal Palace อนุญาต ฉันก็อยากจะขอใบ... อะแฮ่ม ขอทำสัญญาระยะยาวน่ะ คุณคิดว่ายังไงล่ะ?"

วันนี้ Tingyun ไม่เพียงเจรจาการค้าได้สำเร็จ แต่ยังผูกมิตรระยะยาวให้กับสหพันธ์ได้อีกด้วย

Tingyun แตกต่างจากคนอื่นมาตั้งแต่เด็กๆ

ต้องบอกว่า มนุษย์จิ้งจอกนั้นได้ชื่อว่า "มือไวตาไว" มาตั้งแต่เกิดแล้ว... เพราะการตอบสนองรวดเร็วราวกับสายฟ้า และประสาทสัมผัสที่เฉียบไวจึงทำให้พวกเขาเป็นแบบนั้น พวกมนุษย์จิ้งจอกสมัยเด็กๆ ส่วนใหญ่จึงมีความขี้เล่นและซุกซนมาก ส่วน Tingyun น่ะเหรอ? เด็กสาวหูแหลมคนนี้มักดูนุ่มฟูอยู่เสมอ แต่เมื่อพบเจอใครก็ไม่ไปดึงขนคนอื่น และแม้จะถูกคนอื่นดึงขน เธอก็ยังสามารถใช้รอยยิ้มไร้เดียงสา และน้ำเสียงหวานๆ ของเด็กน้อยเพื่อโน้มน้าวให้อีกฝ่ายหยุดมือได้...

แม้จะเข้าใจได้ไม่ยากว่ามนุษย์มีนิสัยแตกต่างกัน แต่เมื่อเทียบกับลูกมนุษย์จิ้งจอกวัยเดียวกัน ที่วุ่นวายอยู่กับการรื้อบ้านเล่น Tingyun น้อยที่ไม่ถนัดการต่อสู้ ก็ทำให้พ่อแม่ของเธอที่ทำงานเป็นทหารใน Sky-Faring Commission รู้สึกร้อนใจไม่น้อย เมื่อเห็นว่า Tingyun น้อยคงไม่อาจสืบทอดอาชีพของครอบครัวได้ สุดท้ายทั้งสองจึงล้มเลิกความคิด และปล่อยให้เด็กน้อยพัฒนาตนเองอย่างอิสระ...

ดังนั้นในประวัติศาสตร์การค้าของ Luofu จึงมีดาวเด่นดวงใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งดวง จิ้งจอกสาวอาศัยความอ่อนโยนและความสามารถของตน มาเชื่อมโยงกลุ่มการค้าของโลกทั้ง 16 แห่งเข้าด้วยกัน และลงนามในข้อตกลงร่วมกับองค์กรสันติภาพแห่งดวงดาวอีกครั้ง ส่วนงานเทศกาลการค้า "Grand Fair" ของชาว Xianzhou ก็ได้กลายเป็นงานเทศกาลระหว่างดวงดาวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกล โดยมีเธอเป็นผู้ส่งเสริม

เมื่อพูดถึงพัดพับหกแกนของ Tingyun นั่นคืออุปกรณ์อันเลื่องชื่อจาก Artisanship Commission

เพื่อป้องกันอันตรายระหว่างการเดินทาง ผู้ค้าขายต่างแดนส่วนใหญ่จึงพกอาวุธไว้ป้องกันตัว แต่ Tingyun กลับต่างออกไป... เธอยืนกรานที่จะไม่ใช้อาวุธที่ขัดกับรสนิยมของตัวเอง อาวุธจำพวกมีด หอก ดาบ และง้าวมันดูแข็งกร้าวเกินไป เรียกว่านุ่มนวลงดงามไม่ได้เลยสักนิด แต่ถ้าใช้อาวุธลับจำพวกลูกดอกหรือเข็มเงิน มันก็จะทำให้เธอดูโหดเหี้ยมไปหน่อย เสียภาพลักษณ์หมดพอดี

พอคิดไปคิดมา Tingyun จึงเลือกพัดพับแกะสลักเล่มนี้มา เมื่ออธิบายตามคำพูดของเธอ ก็จะได้ว่า:

"ในแง่ของธุรกิจน่ะ ความสงบคือหัวใจสำคัญเลยนะ หากพกอาวุธติดตัว จะส่งผลเสียต่อการผูกมิตร และทำให้การค้าไม่ราบรื่นได้"

"แต่พัดของฉันนั้นต่างออกไป ปกติจะใช้เพื่อพัดให้เย็นสบาย และเวลาเจอลูกค้าที่เจรจายาก ก็จะพัดให้เขาใจเย็นลงสักหน่อย ถ้ายอมนั่งลงเจรจากันดีๆ ก็ดีไป แต่ถ้าไม่..."

"...ฉันก็จะพัดให้แรงๆ ที่ไหนเย็น ก็ให้ไปอยู่ที่นั่นซะเลย!"

อย่างไรก็ตาม ถ้าเธออยากเลื่อนขั้นเป็นผู้บังคับการ ความสุภาพอ่อนโยนของ Tingyun ก็จะเปลี่ยนจากจุดแข็งมาเป็นอุปสรรค... เพราะอดีตผู้บังคับการแต่ละคนของ Sky-Faring Commission ต่างก็เป็นสุดยอดนักบิน และเป็นนักรบที่เคยตะลุยภยันตรายต่างๆ นานามาแล้วทั้งนั้น... แต่ Tingyun ไม่มีทั้งพรสวรรค์ในการขับ Starskiff และไม่เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้อีกด้วย เมื่อเทียบกับ Yukong ซึ่งเป็นผู้บังคับการคนปัจจุบันของ Sky-Faring Commission แล้ว ก็เรียกได้ว่าต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย

ยิ่งไปกว่านั้น Yukong ก็ตั้งใจจะฝากอนาคตไว้กับเธอด้วย แต่เธอกลับไม่แน่ใจว่าตัวเองมีความสามารถจริงๆ หรือเปล่า

เธอคิดว่า Yukong ไม่ใช่แค่เป็นหัวหน้าที่เชื่อถือได้ แต่ยังเป็นผู้มีพระคุณที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เมื่อเหล่าวาณิชพบเจอกับอันตรายอีกด้วย สำหรับเธอแล้ว Yukong ก็คือไอดอลผู้เปล่งประกาศเจิดจรัส เธอมอง Yukong เป็นที่พึ่งทางใจ และเป็นสัญลักษณ์บอกทางที่คอยชี้นำทางให้เธอ เธออยากคว้าแสงดาว แต่กลับพบว่าตัวเองทำได้แค่ไล่ตามอยู่กลางความมืด จนกระทั่งดาวที่โดดเดี่ยวดวงนั้นบอกกับเธอว่า:

"ยุคสมัยกำลังเปลี่ยนไป Xianzhou ก็กำลังเปลี่ยนไปเช่นกัน สักวันหนึ่ง เรือยักษ์ลำนี้จะเบื่อหน่ายท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเลือดและเปลวเพลิง เมื่อถึงเวลานั้น Sky-Faring Commission ก็จะกลายเป็นเวทีของเธอ"

เธอไม่รู้ว่าคำพูดนี้จริงจังแค่ไหน แต่เธอก็ยังเก็บถ้อยคำเหล่านั้นไว้ในจดหมายอย่างระมัดระวัง แล้วล็อกเอาไว้ในส่วนลึกของลิ้นชักที่ร้านค้า เธอคิดว่าตัวเองจะไม่มีทางลืมมันแน่นอน

"ถึงจะร่วมต่อสู้ในสมรภูมิไม่ได้ แต่ย่อมมีโอกาสให้ฉันได้แสดงฝีมือแน่นอน" จิ้งจอกสาวบอกกับตัวเอง เมื่อ Luofu จอดเทียบเรือ และตั้งแต่หยุดพักจากสงครามปราบปรามสิ่งชั่วร้าย การค้าอันรุ่งโรจน์ก็ได้กลายเป็นฉากหลังของยุคสมัยนี้ไปแล้ว

หญิงสาวเข้าใจความคาดหวังของ Yukong เธอจึงออกเดินทางสู่อวกาศ เพื่อผูกมิตรและแสวงหาพันธมิตรเพิ่มขึ้น

"ถ้าถามว่าใครคือผู้นำที่คุมหางเสือเรือของ Luofu อยู่ในขณะนี้ ผู้คนก็มักจะตอบว่าเป็นท่าน Yukong แต่ถ้าถามฉัน..."
"ทักษะวาทศิลป์ของฉันก็เป็นความสามารถอย่างหนึ่งของ 'การคุมหางเสือเรือ' เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?"